ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นทะยานกว่า 230 จุด น้ำมันดิบคืนชีพขึ้นเกือบ 3% ปิดเหนือ 74 ดอลลาร์

365
0
Share:

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 35,135 จุด +236 จุด หรือ +0.68% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,655 จุด +60 จุด หรือ +1.32% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 15,782 จุด +291 จุด หรือ +1.88%

สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับเข้าซื้อหุ้นที่มีราคาถูกเทขายลงอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ในสัปดาห์ที่ผ่านไป หลังเกิดความกังวลอย่างมากขึ้นกับประเทศแอฟริกาใต้ที่ตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์ใหม่มีชื่อว่าโอไมครอน นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดน กล่าวว่ามาตรการปิดประเทศสหรัฐอเมริกาไม่อยู่ในความคิดในขณะนี้ รวมถึงไม่มีการบังคับใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อสะกัดโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

ขณะที่ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้ามีราคาปรับเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 69.95 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.6% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 73.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.72 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.99% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านทานั้น ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกดำดิ่ง 15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบที่ปิดสูงสุดที่ราคา 85.41 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปีนี้

สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าครั้งใหม่จากการถล่มเทขายอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไปรับกับองค์การอนามัยโลกแถลงเตือนพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ใหม่ที่มีรหัสพันธุกรรมว่า B.1.1.529 ในแอฟริกา นับเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล หรือ VOC นอกจากนี้

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,786.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง -0.2% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มแข็งค่าเล็กน้อย ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี เริ่มทรงตัว ท่ามกลางปัจจัยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาที่สร้างความปั่นป่วน และการเทขายการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป นักลงทุนหันเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า ได้แก่ ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล และเงินเยน