ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 2.44 จุด บจ.ประกาศงบฯ ต่ำกว่าคาด จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ-FETCO ถกคลัง

198
0
Share:
ตลาด หุ้นไทย ปิดลบ 2.44 จุด บจ.ประกาศงบฯ ต่ำกว่าคาด จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ-FETCO ถกคลัง

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทย ปิดวันนี้ที่ 1,387.13 จุด ลดลง 2.44 จุด หรือ -0.18% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 46,157.93 ล้านบาท รับแรงขายหลังประกาศงบ Sell on fact โดยเฉพาะ บจ.ประกาศงบต่ำคาด ขณะที่วงหารือนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาฯเรียกความเชื่อมั่นตลาดทุน แถลงย้ำว่าไม่มี Naked Short Sell ขณะที่รัฐมีแนวทางเรียกความเชื่อมั่นผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจัดตั้ง ESG Fund แต่ยังต้องติดตามรายละเอียดอีกครั้ง

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลง โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,378.08 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,392.54 จุด

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ติดลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาควันนี้ค่อนข้างผสมผสาน โดยกลุ่มเอเชียเหนือปรับตัวขึ้นได้ดี แต่กลุ่ม TIP ทั้งอินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ อ่อนตัวลงมา

โดยตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจาก Sell on fact หุ้นที่ประกาศงบไตรมาส 3/66 ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด อาทิ COM7 ที่ร่วงลงไปถึง 16% และ JMT ลงไปกว่า 10%

ขณะที่วันนี้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาฯ หารือหน่วยงานตลาดทุน โดยแถลงออกมา 3 ประเด็น ประกอบด้วย การยืนยันข้อมูลว่าไม่มีการทำ Naked Short Sell ในตลาดหุ้นและจะยกระดับความเข้มข้นของมาตรการกำกับดูแลขึ้นอีก ส่วนภาครัฐจะเรียกความเชื่อมั่นผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ GDP โตตามที่หลายฝ่ายคาดหวัง และกระทรวงการคลังนัดหารือกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ถึงแนวทางในการกระตุ้นตลาดทุน คาดว่าจะออกกองทุน ESG Fund ในรูปแบบการลงทุนระยะยาวคล้ายกับ LFT ที่มีมาตรการภาษีสนับสนุน ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดต่อไป

แนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดยังผันผวนเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา นักลงทุนให้น้ำหนักไปที่การติดตามการตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (14 พ.ย.) ขณะที่ในประเทศ ติดตามวงหารือกระทรวงการคลัง และ FETCO คาดว่าจะนำเสนอรูปแบบของกองทุนต่าง ๆ ที่จะมีขึ้นหลังจากที่ SSF จะหมดอายุมาตรการภาษีในปีหน้า หากมีมาตรการหรือรูปแบบกองทุนใหม่ ๆ เข้ามาอาจจะเป็น Sentiment เชิงบวก

นอกจากนั้น ยังเป็นช่วงสุดท้ายของการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนอาจเห็นความผันผวนของหุ้นรายตัว
โดยให้กรอบแนวรับ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด

3 อันดับหลักทรัพย์ ที่มีการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,200.96 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท ลดลง 1.50 บาท
2. COM7 มูลค่าการซื้อขาย 2,603.87 ล้านบาท ปิดที่ 21.80 บาท ลดลง 4.20 บาท
3. JMT มูลค่าการซื้อขาย 2,376.83 ล้านบาท ปิดที่ 24.10 บาท ลดลง 2.90 บาท