ตลาดหุ้นไทยพลิกปิดตลาดบวก 5.11 จุด จากแรงเก็งกำไรกลุ่มโรงพยาบาล รอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

160
0
Share:
ตลาด หุ้นไทย SET Index พลิกปิดตลาดบวก 5.11 จุด จากแรงเก็งกำไรกลุ่มโรงพยาบาล รอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดอยู่ที่ 1,533.41 จุด ปรับขึ้น +5.11 จุด หรือ +0.33% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 57,881 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงเกือบทั้งวัน ก่อนมาปิดตลาดบวกเล็กน้อย ซึ่งดัชนีฯ ทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,518.62 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,532.83 จุด

สำหรับ 3 หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. PTTEP มูลค่า 3,296.40 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 166.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 15%
2. KBANK มูลค่า 3,257.93 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 127.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงไปจากราคาปิดก่อนหน้า
3. BH มูลค่า 2,939.37 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 246.00 บาท เพิ่มขึ้น 17.00 บาท หรือ 7.42%

ตลาด SET50 ปิดที่ 951.10 จุด ปรับ +3.05 จุด หรือ +0.32% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40,384.65 ล้านบาท

ตลาด mai ปิดที่ 459.37 จุด ปรับ +1.68 จุด หรือ +0.37% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 997.39 ล้านบาท

บล.ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่าวันนี้ดัชนีฯ แกว่งตัวแบบผสมผสานเนื่องจากมีทั้งปัจจัยบวก และลบคละกันโดยปัจจัยบวกคือ หุ้น BH ประกาศงบออกมาดีเกินคาด ประกอบกับมีการจ่ายปันผล ดังนั้นจึงทำให้มีแรงเก็งกำไรในกลุ่มโรงพยาบาล ขณะที่ยังมีแรงเทขายหุ้น DELTA เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์จะปรับเกณฑ์การคำนวณดัชนีฯ ใหม่

ดังนั้นมองว่าวันพรุ่งนี้ดัชนีฯ จะยังคงแกว่งในกรอบแคบที่ 1,515-1,545 จุด แบบวันนี้ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่

ด้านบล.เอเซีย พลัส กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวนกรอบแคบ นักลงทุนติดตามการรายงานผลประกอบการของธุรกิจในไตรมาส 2/66 รวมทั้งประเด็นการเมืองในประเทศ การรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย

นอกจากนี้หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้กลุ่มพลังงาน เช่น PTTEP,PTT และโรงกลั่น ปรับตัวขึ้นมา และอีกกลุ่มเป็นหุ้นที่ผลประกอบการออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด หรือเป็นหุ้นที่ภาพรวมผลประกอบการระยะถัดไปมีโอกาสฟื้นตัว ทำให้ตลาดกลับมาเก็งกำไรหุ้นดังกล่าว อาทิ กลุ่มโรงพยาบาล BH ที่เป็นตัวหนุน และกลุ่มไฟแนนซ์ JMT

แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้คาดว่าจะผันผวนไปตามรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐ ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี CPI จะปรับขึ้น 3.3% เมื่อเทียบรายปี ถ้าตัวเลขขยายตัวมากกว่าที่ตลาดคาดทำให้ตลาดกลับมากังวลเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นสูงและยาวนานกว่าคาด และจะเชื่อมโยงกับการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจจะมีการปรับขึ้นอีกครั้ง และตลาดจะตอบรับในเชิงลบ ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามต่อพัฒนาการทางการเมือง และการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 2/66 โดยให้แนวต้าน 1,545 จุด แนวรับ 1,520 จุด