ตัวแทนภาค ปชช.ร้องศาลปกครอง ฟ้อง กกท. -กสทช.ละเมิดกฎหมาย ขัดปมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก

309
0
Share:
ตัวแทนภาค ปชช. ร้อง ศาลปกครอง ฟ้อง กกท. -กสทช.ละเมิดกฎหมาย ขัดปมรับชมถ่ายทอดสดฟุต บอลโลก

นางสาวกุลธิดา เกิดแก่นแก้ว ทนายความผู้ฟ้องคดีผู้ได้รับมอบอำนาจให้เป็นตัวแทนนาย นพดล วงศ์วิหค ตัวแทนประชาชน เข้ายื่นฟ้องผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ต่อศาลปกครองกลาง โดยขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาหรือมีมาตรการคุ้มครองและมีคำขอบรรเทาทุกข์ชั่วคราวโดยเร่งด่วน

เนื่องจาก กกท.ในฐานะผู้ซื้อและได้รับลิขสิทธิ์การเผยแพร่เสียงเผยแพร่ภาพการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 จากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ FIFA ผ่านบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในมูลค่า 1,300 ล้านบาทโดยเงินจำนวนครึ่งหนึ่งคือ 600 ล้านบาท มาจากกองทุนวิจัยและพัฒนาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

ส่วนที่เหลือได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบริษัทค่ายมือถือชื่อดังซึ่งสนับสนุนเงินจำนวน 300 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุนเสนอตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ 2543 ซึ่งเป็นการจัดสรรเงินจากกองทุนให้ไปซื้อลิขสิทธิ์เพื่อให้ประชาชนสามารถรับชมรายการดังกล่าวได้อย่างทั่วถึงรวมทั้งส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนด้อยโอกาสให้เข้าถึงและรับรู้ใช้ประโยชน์จากรายการดังกล่าวได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป โดยไม่เลือกปฏิบัติและยังเป็นภารกิจของ กสทช. ที่ต้องกำกับดูแลให้การถ่ายทอดสดเป็นไปโดยถูกต้องตามกรอบของกฎหมายแต่ผลปรากฏว่าทาง กกท. ทำสัญญาให้สิทธิ์ในการใช้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเพียงบริษัทเดียวคือบริษัทที่เป็นค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ ถ่ายทอดสดผ่านระบบ IPTV ระบบอินเทอร์เน็ตและระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมถึงระบบอื่นๆ ของค่ายมือถือดังกล่าวแต่กลับมีการปิดกั้นช่องทางการเผยแพร่กล่องรับสัญญาณของค่ายมือถืออื่นและระบบอื่นๆ

ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของประกาศ mush have mush carry ที่ต้องการให้ประชาชนสามารถรับชมได้อย่างทั่วถึงและทุกช่องทางซึ่งการระงับดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายทั้ง 2 หน่วยงานถือว่าเป็นการละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดสรรให้ประชาชนได้รับชมอย่างทั่วถึงและไม่เลือกปฏิบัติ

โดยตัวแทนประชาชน ระบุว่ามีประชาชนจำนวนเกือบ 1 ล้านคน ที่มีกล่องรับสัญญาณของระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ตยี่ห้ออื่นๆ มากกว่า 1 ล้านคนที่ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้จึงทำให้ภาคประชาชนตัดสินใจเข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเพื่อลดภาระให้กับประชาชน หากศาลจะมีความเห็นรับฟ้องและให้ไต่สวนเร่งด่วนในบ่ายวันนี้หรือในวันต่อๆ ไป ทีมกฎหมายก็พร้อมจะเข้าชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยพยานหลักฐานสำคัญคือข้อกฎหมายตามที่ระบุไปข้างต้น และข้อกำหนดของกองทุนวิจัยและพัฒนาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พร้อมทั้งได้เตรียมพยานหลักฐานอื่นๆ ไว้เพื่อต่อสู้ในชั้นไต่สวนแล้ว