ต้องลดลง! นายกเศรษฐาชี้ไทยต้องปรับปรุงการรับรู้ทุจริตให้เทียบเท่า 3 ชาติในอาเซียน

233
0
Share:
ต่อต้านคอร์รัปชัน ต้องลดลง! นายก เศรษฐา ชี้ ไทย ต้องปรับปรุงการรับรู้ ทุจริต ให้เทียบเท่า 3 ชาติในอาเซียน

วันนี้ 6 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2566 WHAT THE FACT? ค้นหาความจริง-ใจในการต่อต้านคอร์รัปชัน ซึ่งจัดขึ้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือสถานีรถไฟกลางบางซื่อ ว่า การปราบปรามการทุจริตและเพื่อความโปร่งใสของรัฐบาลเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญอย่างยิ่งของรัฐบาล เป็นนโยบายที่หน่วยงานรัฐต่อปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อยกเว้น ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) เป็นอันดับที่ 101 ของโลก ในด้านของดัชนีการรับรู้การทุจริตเป็นอันดับ 4 ของอาเซียน ตามหลังสิงคโปร์ มาเลเซีย และ เวียดนาม ซึ่งประเทศไทยต้องพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมกับ 3 ประเทศข้างต้นทั้งในด้านการรับรู้การทุจริตและด้านอื่นๆ

การคอร์รัปชันเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความเสียหายกับภาครัฐ นักลงทุนเกิดความไม่เชื่อมั่นกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อกำจัดการทุจริตทางรัฐบาลของประชาชนชุดนี้ มีนโยบายในการใช้หลักนิติธรรม และนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานเพื่อให้ตรวจสอบกระบวนการทำงานของภาครัฐได้ เป็นรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งจะช่วยประชาชนได้ทั้งในด้านการตรวจสอบความโปร่งใสและการให้บริการของภาครัฐที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ออกกฎหมายที่ให้ความสำคัญกับประโยชน์ของประชาชน และประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็นช่วยกำหนดทิศทางอนาคตของตนและประเทศ มีแผนปรับปรุงกฎหมายต่างๆ เปลี่ยนรัฐอุปสรรคเป็นรัฐสนับสนุน ป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับสินบนจากประชาชน

“นอกจากนี้รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมาย การลงโทษเฉียบขาดและครอบคลุม เจ้าหน้าที่รัฐต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน และเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อแสดงความโปร่งใสและให้ประชาชนตรวจสอบได้ การมีกฎหมายเข้มแข็งและการบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้จะส่งเสริมความแข็งแกร่งในสังคมและกำจัดคอร์รัปชันให้หมดจากประเทศไทย” นายเศรษฐา กล่าว

นายนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า นอกจากหลักนิติธรรมแล้วจะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจสอบ เช่น นโยบายระบบจ่ายเงินภาครัฐผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสด เปิดให้ขอใบอนุญาตผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปรับปรุงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐให้โปร่งใส ให้ตรวจสอบข้อมูลได้ เปลี่ยนประเทศให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล เป็นต้น การซื้อขายตำแหน่งต้องหมดไป การโยกย้ายไม่เป็นธรรม ต้องให้เกียรติกับข้าราชการทุกตำแหน่ง เป็นภารกิจที่จะทำในรัฐบาลนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าข้าราชการได้รับความเป็นธรรม ได้รับการสนับสนุนเมื่อมีผลงานที่ดี เรื่องเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ต่อไป

“ผมเชื่อมั่นภายใต้รัฐบาลนี้ปัญหาคอร์รัปชันจะลดลง ความโปร่งใสและเป็นธรรมจะเพิ่มมากขึ้น และตามมาด้วยความน่าเชื่อถือ การยอมรับจากประชาชนและนักลงทุนทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบที่ดีต่อเศราฐกิจและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกคน” นายเศรษฐา กล่าว