ทรัมป์ดื้อไม่ยอมกักตัว อ้างสหรัฐคือประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

904
0
Share:

ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยคลิปความยาวประมาณ 4 นาที ว่า “ในช่วงเวลาจากนี้ไปอีก 2-3 วัน จะเป็นช่วงทดสอบที่แท้จริง ผมไม่มีทางเลือก เพราะผมไม่ต้องการอยู่แต่ในทำเนียบขาว ผมต้องออกไปข้างนอก ผมไม่สามารถล็อกตัวเองในห้อง อยู่แต่ข้างบน และในที่สุดผมปลอดภัย ในฐานะผู้นำ ผมต้องเผชิญปัญหาหลายอย่าง ที่ผ่านมาไม่มีผู้นำที่ยิ่งใหญ่คนไหนทำสิ่งนั้น”
.
นายแพทย์ฌอน คอนลีย์ หัวหน้าคณะแพทย์แห่งศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติสหรัฐ วอลเตอร์ รีด แถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีอาการดีขึ้นมากตามลำดับ และใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วงบ่ายปฏิบัติงานด้านเอกสารต่างๆ สำหรับแผนการรักษานายโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น นายแพทย์ฌอน คอนลีย์ กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐได้รับยาที่มีชื่อว่า เรมดิซิเวอร์เป็นชุดที่ 2 ยาดังกล่าวผลิตโดยบริษัท จีเลียด ไซน์แอนซ์ อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ชื่อดังในสหรัฐ ยาดังกล่าวผ่านการรับรอง และอนุญาตให้ใช้กับการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลสหรัฐ
.
หัวหน้าคณะแพทย์แห่งศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติสหรัฐ วอลเตอร์ รีด เปิดเผยต่อไปว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้มีปัญหาที่หนักหน่วงเกี่ยวกับภาวะการหายใจ ระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ระหว่าง 96% และ 98% ในขณะนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐไม่ได้รับการเพิ่มเติมก๊าซออกซิเจนแต่อย่างใด นายโดนัลด์ ทรัทป์ ไม่จำเป็นต้องได้รับการเพิ่มระดับออกซิเจนเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากถูกส่งตัวมารับการรักษาที่ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติสหรัฐ วอลเตอร์ รีด แต่หัวหน้าคณะแพทย์ไม่ได้ระบุในรายละเอียดว่า ประธานาธิบดีสหรัฐได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการเพิ่มระดับออกซิเจนเมื่อวันศุกร์ในขณะที่ยังอยู่ที่ทำเนียบขาว สหรัฐ
.
อย่างไรก็ตาม นายมาร์ค มีโดว หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติสหรัฐ ว่า อาการสัญญาณชีพ หรือการเต้นของหัวใจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ดูจะมีปัญหา และใน 48 ชั่วโมงข้างหน้าจะเป็นห้วงเวลาสำคัญอย่างที่สุด เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐยังไม่อยู่ในภาวะการพักฟื้นอย่างชัดเจน ถัดมาเมื่อวันเสาร์หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ๊อกซ์ในคืนวันเสาร์ เพิ่มเติมว่า อาการของประธานาธิบดีสหรัฐดีขึ้นมากจริงๆ