เปิดวันแรก! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดขึ้นเกือบ 40 จุด น้ำมันดิบโลกปิดทรงตัวเหนือ 84 ดอลล์

196
0
Share:
เปิดวันแรก! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดขึ้นเกือบ 40 จุด น้ำมันดิบโลกปิดทรงตัวเหนือ 84 ดอลล์

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,241 จุด +37 จุด หรือ +0.11% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,829 จุด -15 จุด หรือ -0.40% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,353 จุด -144 จุด หรือ -1.38% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดแตกต่างกัน โดย +0.9%, -0.2% และ -2.0% ตามลำดับ

สาเหตุจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 3.85% สะท้อนความกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาถดถอย นอกจากนี้ นักลงทุนมองภาพรวมเศรษฐกิจปี 2023 ยังคงเต็มไปด้วยความเสี่ยงแบะปัจจัยไม่แน่นอนสูง แม้รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่จะเร่งผ่อนคลายนโยบายซีโร่โควิดก็ตาม ด้านราคาหุ้นของเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ร่วงตกต่ำอย่างต่อเนื่อง หลังจากเทสลาเตรียมลดกำลังการผลิตรถไฟฟ้าในเดือนมกราคมที่โรงงานเซี่ยงไฮ้ สะท้อนภาวะตลาดรถไฟฟ้าในจีนชะลอตัวหนักและต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกากำลังใกล้สิ้นสุดปีนี้ พบว่าจะเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา หรือตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจการเงินในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังเป็นปีที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนติดลบจนทำให้ผลตอบแทนในช่วง 3 ปีติดกันก่อนหน้านี้เป็นศูนย์ โดยในปี 2022 จนถึงคืนผ่านมา 27 ธันวาคม ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ -8.56% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 -19.89% และดัชนีหุ้นนาสแดค -34.90% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 เข้าสู่ภาวะปรับฐาน หรือ Correction และดัชนีหุ้นนาสแดคอยู่ในภาวะหมี หรือ Bear Market

นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคมจนถึงคืนผ่านมา 27 ธันวาคม ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ -3.92% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 -6.20% และดัชนีหุ้นนาสแดค -9.97%

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 79.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 84.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.5% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดขึ้นแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน และทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์นี้ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน หรือนับตั้งแต่ตุลาคมผ่านมา

สาเหตุจากโรงผลิตน้ำมันดิบในบริเวณชายฝั่งทะเลของสหรัฐอเมริกากลับมาเดินเครื่องผลิตน้ำมันดิบหลังจากได้รับผลกระทบจากพายุหิมะที่รุนแรงในสุดสัปดาห์ผ่านไป นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค กล่าวว่าประเทศรัสเซียอาจลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงระหว่าง 5% ถึง 7% ในช่วงต้นปี 2023 เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อมาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลของโลกตะวันตก นอกจากนี้ การส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียในเดือนธันวาคมมีแนวโน้มสูงที่จะลดต่ำลงมากถึง 20% หลังจากถูกกลุ่มสหภาพยุโรป กลุ่มจี7 และออสเตรเลีย เริ่มใช้มาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียโดยมีผลตั้งแต่ 5 ธันวาคมเป็นต้นไป

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,822.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +17.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +1% ทำสถิติราคาทองคำตลาดโลกปิดสูงในรอบ 6 เดือน ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำตลาดโลกปีนี้มีความเป็นไปไม่ได้สูงที่จะลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยเฉพาะมีราคาลดลงมากถึง -250 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์นับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับอ่อนค่าลง หลังจากรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่เร่งผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 ด้วยการยกเลิกการกักตัวผู้เดินทางเข้าจีนตั้งแต่ 8 มกราคมเป็นต้นไป