ทรู-ดีแทค คาดร่วมดีลไม่สะดุด กฤษฎีกาชี้ชัด อิงตามประกาศปี 61 ไม่ต้องขออนุญาต กสทช.

323
0
Share:
ทรู ดีแทค คาดร่วมดีลไม่สะดุด กฤษฎีกาชี้ชัด อิงตามประกาศปี 61 ไม่ต้องขออนุญาต กสทช.

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ตามที่ กสทช. ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความอนุเคราะห์ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้ความเห็นในประเด็นข้อกฎหมาย เพื่อตีความอำนาจพิจารณาการรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคนั้น ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ย.) สำนักงาน กสทช.ได้รับหนังสือตอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นที่เรียบร้อย และได้ส่งต่อประธานกสทช.เพื่อที่จะนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในลำดับต่อไป

หลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้ส่งเรื่องให้กฤษฎีกาออกความเห็นเกี่ยวกับอำนาจของกสทช. เพื่อใช้เป็นข้อการพิจารณากรณีรวมกิจการทรูดีแทคนั้น ล่าสุดปรากฏว่ากฤษฎีกาฯได้ส่งหนังสือตอบกลับมายัง กสทช.แล้ว โดยมีความเห็นสรุปเป็นสาระสำคัญได้ว่า การรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่างทรูและดีแทคต้องยึดตามประกาศ กสทช.ปี 2561

และเนื่องจากกฎหมายรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ตามประกาศกสทช.ปี 2553 ที่กำหนดให้การรวมธุรกิจต้องได้รับอนุญาตจากกสทช.ก่อนนั้น ได้ถูกยกเลิกแล้วโดยมีประกาศ กสทช.ปี 2561 ขึ้นมาแทน ซึ่งกำหนดให้การรวมธุรกิจกระทำได้โดยจัดทำรายงานส่งให้กสทช. โดยมีทั้งกรณีที่ต้องรายงานก่อนล่วงหน้าและรายงานหลังจากรวมธุรกิจแล้ว สอดคล้องกับมาตรา 77 วรรคสามของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้รัฐพึงใช้ระบบอนุญาตเฉพาะกรณีที่จำเป็น

ในการนี้ กสทช. มีอำนาจกำหนดเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะ สำหรับผู้มีอำนาจเหนือตลาดมาบังคับใช้ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะได้ตามข้อ 12 ของประกาศปี 2561 นอกจากนี้ยังให้ความเห็นว่า กสทช. ต้องใช้อำนาจโดยคำนึงถึงความได้สัดส่วนระหว่างการคุ้มครองผู้บริโภคกับการพัฒนากิจการโทรคมนาคมด้วย

อย่างไรก็ตามข้อคิดเห็นทางกฎหมายจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ถือเป็นประตูทางออกสำหรับกสทช.ในการพิจารณาการรวมกิจการทรูดีแทค ซึ่งคาดว่ากสทช.จะมีการเรียกประชุมวาระพิเศษเพื่อพิจารณากำหนดเงื่อนไขโดยเร็ว เพื่อลดกระทบต่อผู้บริโภคตามที่ที่หลายฝ่ายวิตกกังวล เนื่องจากกรณีนี้ล่าช้าและยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน