ทองคำตลาดโลกปิดทะยานกว่า 22 ดอลล์ ขึ้นเหนือ 2,004 ดอลล์ บอนด์ยีลด์ควงดอลลาร์สหรัฐร่วง

195
0
Share:
ทองคำโลก ปิดทะยานกว่า 22 ดอลล์ ขึ้นเหนือ 2,004 ดอลล์ บอนด์ยีลด์ควงดอลลาร์สหรัฐร่วง

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,004.79 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +26.11 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.3% ส่งผลหยุดราคาทองคำส่งมอบทันทีปิดลดลง 3 วันติดกัน รวม -51.24 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -2.5%

ย้อนไปเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2023 ในช่วงระหว่างวันซื้อขาย ราคาทองคำส่งมอบทันที พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 2,135.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่งผลให้ราคาซื้อขายสูงสุดระหว่างวันทำสถิติราคาทองคำส่งมอบทันทีสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ก่อนหน้านี้ในตลาดเอเชีย เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2023 ราคาทองคำส่งมอบทันทีมีราคาพุ่งกระฉูดถึงระดับที่ 2,148.99 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,993.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +4.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.2% หยุดราคาทองคำล่วงหน้าปิดลดลง 3 วันติดกัน รวม -53.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -2.3% ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2023 โดยในช่วงระหว่างวันซื้อขาย ราคาทองคำล่วงหน้า ขึ้นสูงสุดที่ 2,152.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่งผลให้ราคาซื้อขายสูงสุดระหว่างวันทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำตลาดโลกปิดร่วงมากถึง -3.4% ในขณะที่ ทั้งเดือนพฤศจิกายนผ่านไป ราคาทองคำโลกเพิ่มขึ้น +2.7% นับเป็นเดือนที่ 2 ที่ราคาปิดขึ้นในแดนบวก

ก่อนหน้านึ้ ในเดือนตุลาคม พบว่าราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 8% โดยนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่กลุ่มฮามาสติดอาวุธเปิดฉากโจมตีอิสราเอลจนนำไปสู่สงครามรุนแรงในรอบ 75 ปีของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 190.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เนื่องจากราคาทองคำตลาดโลกเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2023 อยู่ที่ระดับ 1,809.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

เมื่อกลางเดือนเมษายนปี 2023 ผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดตรึงดอกเบี้ยสหรัฐต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 และประธานเฟดส่งสัญญาณสิ้นสุดรอบขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น คาดว่าจะกลับลดลงในปีหน้าราว 3 ครั้ง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลง 0.6% เช่นเดียวกันกับ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ปรับลดลง 0.13%

ขณะที่ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมสิ้นเดือนธันวาคมนี้อยู่ที่ 100% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 91% ขณะเดียวกัน โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในการประชุมเดือนมีนาคม ปี 2024 อยู่ที่ 66% จากเดิมเคยมองว่ามีโอกาสถึง 50% จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม