ทองพุ่ง! ราคาทองคำโลกปิดพุ่งอีกกว่า 22 ดอลล์ ยืนเหนือ 1,980 ดอลล์สูงสุดในกว่า 2 เดือน

131
0
Share:
ทองพุ่ง! ราคา ทองคำโลก ปิดพุ่งอีกกว่า 22 ดอลล์ ยืนเหนือ 1,980 ดอลล์สูงสุดในกว่า 2 เดือน

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,973.41 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +22.74 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.3% ส่งผลให้ราคาทองคำปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +54.14 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,980.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +12.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.6% ส่งผลให้ราคาทองคำปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +46.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปิดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนผ่านมา ที่สำคัญราคาทองคำในเดือนตุลาคมพุ่งขึ้นถึงกว่า 5%

ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำตกต่ำถึง 9 วันติดต่อกันผ่านมา ซึ่งดำดิ่ง 9 วันติดต่อกันมากกว่า 106 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำให้ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำปิดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 10 เดือนมีนาคมเป็นต้นมา

นอกจากนี้ ในเดือนกันยายน พบว่าราคาทองคำตลาดโลกร่วงลง -4.6% หรือดำดิ่งมากถึง 99 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สอดคล้องกับราคาทองคำรายไตรมาส ปิดร่วงลง -3.6% ที่สำคัญ นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ซึ่งทองคำมีราคาเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์นั้น ราคาทองคำตลาดโลกดำดิ่งลงเหวถึง 230 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือทรุดลงหนักกว่า -11%

เมื่อกลางเดือนเมษายนปี 2023 ผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากนักลงทุนยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่างประเทศอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสติดอาวุธที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในรอบ 50 ปี นอกจากนี้ ท่าทีของสหรัฐอเมริกาที่สนับสนุนอิสราเอลหลังเกิดเหตุการณ์ยิงขีปนาวุธทางอากาศถล่มโรงพยาบาลในฉนวนกาซานั้น สหรัฐอเมริกายืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจนในการกระทำดังกล่าวไม่เป็นของอีกฝ่าย ไม่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล

การกล่าวปาฐกถาของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในคืนผ่านมา ส่งสัญญาณชัดเจนว่า รอบการสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดยังไม่เกิดขึ้น ที่สำคัญ คือ ประธานธนาคารกลางเฟดกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในปัจจุบันไม่ได้สูงเกินไป ภาวะอัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง และการชะลอตัวเศรษฐกิจสหรัฐอาจมีความจำเป็นเพื่อทำให้อัตราเงินลดลง การปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นมากกว่าที่ตลาดมองว่าจะจะขึ้นไม่มากนัก

สำหรับการประชุมของธนาคารสหรัฐอเมริกาในรอบต่อไป คือวันที่ 31 ตุลาคมถึงวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนธันวาคมอยู่ที่ 70% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 50%