ทัวร์ต่างชาติสู่รอบ 4! หมอธีระส่งสัญญาณเปิดต่างชาติเที่ยวไทย เสี่ยงสูงระบาดรอบ 4 จับตาสิงหาคมถึงกันยายน

504
0
Share:
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟ ซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 กับโอกาส และปัจจัยนำไปสู่การระบาดรอบที่ 4 ในไทย มีข้อความว่า การเคลื่อนไหวของประชากร จำนวนการสัมผัส พบปะติดต่อ ระยะเวลาที่ใกล้กัน รวมถึงการค้าขาย และบริการที่มีความใกล้ชิด จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการระบาดระลอกที่สี่ของไทยเราครับ หากจำกันได้ เคยคาดการณ์จากข้อมูลที่ติดตามประเทศอื่นๆ ที่ระบาดระลอกสามมาก่อนเราว่า ถ้าเราเป็นไปตามค่าเฉลี่ยของเค้า คงจะต้องสู้ไปยาวถึงประมาณ 21 กรกฎาคมเป็นอย่างน้อย
.
อย่างไรก็ตาม อาจยืดยาวกว่านั้น หากมาตรการจัดการควบคุมไม่เข้มข้นพอ จะมีบทเรียนจากบางประเทศที่ติดเชื้อหนักไปเรื่อยๆ ก็มีความเป็นไปได้
นอกจากนี้พอประเมินสถานการณ์ปัจจุบันที่เรามีอาวุธป้องกันอย่างวัคซีนที่ปริมาณจำกัด ชนิดจำกัด และยังไม่สามารถทำให้ทุกคนในประเทศเข้าถึงได้อย่างครอบคลุม ประกอบกับระบบการตรวจคัดกรองโรคที่ยังตรวจได้จำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก
การเปิดการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติเข้ามาจึงมีโอกาสสูงที่จะนำไปสู่การระบาดระลอกที่ 4 ซึ่งอาจมาในรูปแบบที่กระหน่ำซ้ำต่อจากระลอกสาม หรือหลังจากนั้น จะช้าหรือเร็วคงขึ้นกับจำนวนนักท่องเที่ยว และการกระจายตัวท่องเ่ที่ยวไปในที่ต่างๆ ที่มีความชุกของการติดเชื้อในพื้นที่มากน้อยเพียงใด
ความเสี่ยงหลักในสายตาของผมไม่ใช่การมีโอกาสนำพาเชื้อกลายพันธุ์เข้ามาเท่านั้น แต่เป็นจากการทำให้เกิดกิจกรรมการพบปะสังสรรค์ ค้าขาย บริการที่มีความใกล้ชิด แออัด จำนวนครั้งมากขึ้น เวลาสัมผัสมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้จะมีอิทธิพลสูงต่อการทำให้เกิดการระบาดซ้ำ
.
หากเริ่มกรกฎาคม มีโอกาสจะได้เริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ปลายสิงหาคมหรือต้นกันยายน แต่จะเห็นชัดมากที่ไตรมาสสุดท้ายของปี
ที่เล่ามายืดยาว เพื่ออยากกระตุ้นเตือนให้พวกเราช่วยกันป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนท้องถิ่นในพื้นที่ท่องเที่ยว และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงจังหวัดศูนย์กลางการคมนาคม และที่สำคัญมากคือ สำรองทุนเก็บไว้ด้วยนะครับ อย่าเพิ่งทุ่มหมดหน้าตักไปกับการขยายหรือฟื้นฟูกิจการเพื่อหวังทำกำไรเต็มที่ เพราะหากเกิดระบาดซ้ำ จะสูญทุนที่ลงไปมาก เราได้เรียนรู้จากปลายปีก่อนและต้นปีนี้มาแล้ว
.
การที่จะมั่นใจได้ก็ต่อเมื่อ ระบบพื้นฐานมีความมั่นคงมากๆ เช่น ระบบการตรวจคัดกรองมากเพียงพอและครอบคลุม วัคซีนมีมากชนิดและปริมาณมากเกินจำนวนประชากรและได้รับการฉีดอย่างครอบคลุม และสถานการณ์การระบาดในภาพรวมทั่วโลกควบคุมได้แล้ว
จากที่ประเมินสถานการณ์ขณะนี้ เราอาจมีโอกาสต้องเผชิญการระบาดอยู่เรื่อยๆ ไปถึงอย่างน้อยกลางปีหน้า ถ้าไม่รีบตัดวงจรการระบาด เสริมศักยภาพระบบตรวจคัดกรอง และเร่งจัดหาวัคซีนอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย เข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง mRNA vaccines
ระหว่างนี้ ใส่หน้ากากกันนะครับ สองขั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า…