ทำกำไร! ราคาทองคำโลกปิดลงเกือบ 10 ดอลลาร์ หยุดสถิติราคาขึ้น 4 วันติดกว่า 60 ดอลลาร์

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,971.37 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -9.42 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.5% หยุดสถิติราคาทองคำปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +61.52 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ในสัปดาห์ผ่านไป

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,983.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -9.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.5% ส่งผลหยุดราคาทองคำปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +58.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ในสัปดาห์ผ่านไป โดยมีราคาปิดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนผ่านมา

ในสัปดาห์ผ่านไปนั้น ราคาทองคำตลาดโลกเพิ่มขึ้น +2.9% ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ราคาทองคำพุ่งขึ้น 5.22% รวม 2 สัปดาห์ติดกัน ราคาทองคำพุ่งขึ้น +8.12% ที่สำคัญราคาทองคำในเดือนตุลาคมพุ่งขึ้นถึงกว่า 5% หรือพุ่งทะยานถึงเกือบ 160 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นับตั้งแต่เกิดการสู้รบรุนแรงในรอบ 50 ปี ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสติดอาวุธในฉนวนกาซา

นอกจากนี้ ในเดือนกันยายน พบว่าราคาทองคำตลาดโลกร่วงลง -4.6% หรือดำดิ่งมากถึง 99 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สอดคล้องกับราคาทองคำรายไตรมาส ปิดร่วงลง -3.6% ที่สำคัญ นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ซึ่งทองคำมีราคาเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์นั้น ราคาทองคำตลาดโลกดำดิ่งลงเหวถึง 230 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือทรุดลงหนักกว่า -11%

เมื่อกลางเดือนเมษายนปี 2023 ผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี พุ่งสูงขึ้นเหนือระดับ 5% เป็นครั้งที่ 2 ภายในเกือบ 1 สัปดาห์ผ่านมา และทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี 3 เดือน โดยขึ้นไปแตะระดับ 5.004% เช่นเดียวกันกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 30 ปี พุ่งสูงขึ้นเหนือระดับ 5% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 16 ปี 3 เดือน นอกจากนี้ ขบวนรถให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถเข้าไปในฉนวนกาซาได้ในช่วงสุดสัปดาห์ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่างประเทศอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสติดอาวุธที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในรอบ 50 ปี นอกจากนี้ ท่าทีของสหรัฐอเมริกาที่สนับสนุนอิสราเอลหลังเกิดเหตุการณ์ยิงขีปนาวุธทางอากาศถล่มโรงพยาบาลในฉนวนกาซานั้น สหรัฐอเมริกายืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจนในการกระทำดังกล่าวไม่เป็นของอีกฝ่าย ไม่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล

สำหรับการประชุมของธนาคารสหรัฐอเมริกาในรอบต่อไป คือวันที่ 31 ตุลาคมถึงวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนธันวาคมอยู่ที่ 70% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 50%