ทำยอดต่อ! เนปาลมียอดติดโควิดรายใหม่เกือบ 9,000 คนสูงสุดประวัติการณ์ครั้งใหม่ ขยับขึ้นอันดับที่ 47 โลก
กระทรวงสาธารณสุข ประเทศเนปาล เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 2 ในระยะเวลา 24 ชั่วโมงถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะยานสูงถึง 8,970 ราย ทำสถิติผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศเนปาลเมื่อปี 2563 เป็นต้นมา ก่อนหน้านี้ สถิติติดเชื้อรายวันเป็นประวัติการณ์เดิมอยู่ที่ 8,605 รายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 368,580 ราย ขยับขึ้น 1 อันดับโลก มาอยู่ที่ 47 ของโลก ขณะที่ผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้น 54 ราย ส่งผลเสียชีวิตรวมสะสมเป็น 3,529 ราย
.
สาเหตุสำคัญเกิดจากการพบผู้ติดเชื้อชาวต่างชาติที่ยังคงเดินทางเข้าและออกประเทศเนปาล โดยเฉพาะชาวอินเดีย ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดในประเทศอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความโกรธเคืองอย่างมากให้กับประชาชนชาวเนปาลที่มีต่อรัฐบาลเนปาล นอกจากนี้ ระบบการตรวจคัดกรองที่หละหลวมกับแรงงานชาวเนปาลที่ไปทำงานประเทศอินเดีย ซึ่งเดินทางกลับเนปาล เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในอินเดียทวีความรุนแรงทุกวัน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเนปาลประกาศมาตรการยกเลิกเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศที่จะเข้าสู่เนปาล โดยมีผลเที่ยงคืนของวันจันทร์ที่ผ่านมา และมีผลเที่ยงคืนของวันพุธนี้ตามลำดับ การตัดสินใจห้ามเที่ยวบินต่างประเทศเข้าสู่เนปาลในครั้งนี้ กลายเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ในเนปาล ซึ่งครั้งแรกเมื่อเมษายน 2563 เนปาลทำการปิดน่านฟ้าทั้งประเทศนานถึง 5 เดือน
.
ขณะที่ในสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเนปาลประกาศมาตรการปิดล็อกดาวน์ในเมืองสำคัญเป็นเวลานานถึง 2 สัปดาห์ เช่น สั่งปิดโรงเรียนและวิทยาลัย ปิดโรงงาน ปิดไนท์คลับและโรงภาพยนตร์ นอกจากนี้ สั่งห้ามรวมตัวกันในที่สาธารณะด้วย
อัตราการแพร่ระบาดติดโรคโควิด-19 ในเนปาลทวีความรุนแรงและรวดเร็วนับตั้งแต่กลางเดือนเมษายนเป็นต้นมา โดยเริ่มจากอัตราเฉลี่ยติดเชื้อรายวันในทั้งหมด 7 วัน มีต่ำกว่า 100 ราย ได้พุ่งทะยานขึ้นมาเป็น 4,500 รายเมื่อวันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของเนปาลนั้น พบว่าเนปาลกำลังเผชิญปัญหาการขาดแคลนวัคซีน เนื่องจากรัฐบาลเนปาลต้องหยุดโครงการฉีดวัคซีนในเดือนเมษายน หลังจากเนปาลไม่สามารถจัดหาวัคซีนได้จากทั้งอินเดีย และจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งประเมินว่าเนปาลต้องการวัคซีนของแอสตราเซเนกาไม่น้อยกว่า 1.6 ล้านโดส เพื่อนำไปฉีดเป็นโดสที่ 2 ขณะที่ก่อนหน้านี้ เนปาลฉีดวัคซีนให้ประชาชนชาวเนปาลมากกว่า 2 ล้านคน ด้วยวัคซีนของแอสตราเซเนกา และซิโนฟาร์มของจีน
.
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเนปาล กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์เฉพาะกิจในประเทศ เพื่อขอเรียกร้องให้นานาชาติ เช่น ประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศอื่นๆที่เป็นมิตร และองค์กรระหว่างประเทศ ช่วยเหลือด้านการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 และอุปกรณ์การแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติระบบสาธารณสุขเนปาลล่มสลาย
