ทำเลจีน! ฟรีวีซ่าจีนถาวรส่งโอกาสคนจีนแห่ซื้อคอนโดในไทย คนจีนมีซื้อแพงสุด 50 ล้าน

422
0
Share:
ทำเลจีน! ฟรีวีซ่าจีนถาวรส่งโอกาส คนจีน แห่ซื้อ คอนโด ในไทย คนจีนมีซื้อแพงสุด 50 ล้าน

นายไซม่อน ลี ประธานกรรมการ บริษัท แองเจิล เรียลเอสเตท คอนซัลแทนซี่ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขายโควตาอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ กล่าวว่า มาตรการวีซ่าฟรีถาวรไทย-จีน ซึ่งจะบังคับใช้วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไปนี้ จะทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามามากขึ้น และส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมในไทย เนื่องจากชาวจีนเป็นลูกค้าหลักที่มาซื้อคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม แม้การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว และมีวีซ่าฟรีถาวร แต่อาจจะยังไม่หวือหวามากนัก เนื่องจากประเทศจีนกำลังมีวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศด้วย อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง

ตอนนี้มียอดขายเพิ่มขึ้น 10-20% ส่วนใหญ่ซื้อลงทุนปล่อยเช่าให้กับต่างชาติและคนจีนด้วยกัน ระยะเวลาเช่าตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือนหรือนานกว่านั้น อัตราค่าเช่าถ้าเป็นแบบ 1 ห้องนอนเดือนละ 10,000 กว่าบาท แบบ 2 ห้องนอนเดือนละ 20,000-30,000 บาท โดยได้ผลตอบแทนประมาณ 3-6% ด้านระดับราคาที่ซื้อมีตั้งแต่ 3-50 ล้านบาทและซื้อมากสุด 5-10 ห้อง ยังไม่มีซื้อเป็นบิ๊กล็อตเหมือนเมื่อก่อน

นายไซม่อน กล่าวต่อไปว่า ส่วนทำเลที่ต่างชาตินิยมซื้อในพื้นที่กรุงเทพจะเป็นโซนพระราม9 รัชดาภิเษก สุขุมวิท สาทร พระราม4 ลูกค้าของบริษัทฯ จะเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกง โดยจะซื้อคอนโดมิเนียมของแสนสิริ เอพี ศุภาลัย แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ในขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ คนจีนจะซื้อคอนโดมิเนียมอยู่ในย่านช้างคลาน สันกำแพง สันทราย โดยลูกค้าจะเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ นอกจากนี้ ลูกค้าคนจีนจะซื้อโครงการของอรสิริน

สำหรับจังหวัดภูเก็ตนั้น คอนโดมิเนียมอยู่ย่านใกล้เซ็นทรัล หาดไม้ขาว ลากูนา ได้รับความนิยมมาก ในส่วนบางเทายังมีไม่มาก โดยลูกค้าหลักเป็นชาวรัสเซีย ยุโรป และจีน และจะซื้อโครงการห้องชุดของแสนสิริ ศุภาลัย ออริจิ้น โดยแสนสิริเป็นแบรนด์ที่หนึ่งในใจของชาวต่างชาติ

ทั้งนี้ คาดหวังเมื่อมาตรการมีวีซ่าฟรีถาวรมีผลในวันที่ 1 มีนาคมนี้ จะทำให้ตลาดคอนโดคึกคึกยิ่งขึ้น โดยปี 2567 นี้บริษัทตั้งเป้าจะมียอดขาย 800-900 ยูนิต คิดเป็นรายได้ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ผ่านมาที่มียอดขาย 500 ยูนิต และรายได้ 4,000-5,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รายได้ดังกล่าวยังไม่กลับมาเท่ากับช่วงก่อนโควิดที่เคยมียอดขาย 3,500 ยูนิต และรายได้ 20,000-30,000 ล้านบาท