ทิสโก้ปรับลดจีดีพีไทยปีนี้ติดลบ 8% จากปัจจัยการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัว

604
0
Share:

นายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ เปิดเผยว่า ได้ปรับประมาณการ GDP ในปี 2563 ลงเป็นติดลบ 8% จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ติดลบ 6.4% จากความเปราะบางในภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจะฉุดการใช้จ่ายของภาคเอกชนในประเทศให้อ่อนแอลงไปด้วย โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ที่แรงสนับสนุนจากมาตรการแจกเงินของภาครัฐกำลังทยอยหมดลง
.
คาดว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2 หลังภาครัฐฯ ได้ทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลขชี้วัดเศรษฐกิจด้านต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับตัวดีขึ้นในวงกว้าง โดยตัวเลขเศรษฐกิจหดตัวในอัตราที่ชะลอลง
.
แต่หากมองไปข้างหน้า ไม่ได้คาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวเร็ว เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ยังไม่กลับมา แม้ไทยเที่ยวไทยจะฟื้นตัวกลับมาแล้วบ้างก็ตาม
.
เนื่องจากการแพร่ะระบาดของ COVID-19 ในหลายประเทศแย่กว่าที่คาดจึงคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังคงหดตัว 100% จึงได้ปรับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2563 เหลือ 6.7 ล้านคน จากเดิมประเมินว่าจะอยู่ที่ 9 ล้านคน
.
ทั้งนี้ แม้ว่าการท่องเที่ยวแบบจับคู่เดินทาง อาจเกิดขึ้นได้ในไตรมาส 4 แต่คาดว่าผลบวกต่อจำนวนนักท่องเที่ยวน่าจะยังไม่มากพอเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป เนื่องจากการท่องเที่ยวในรูปแบบดังกล่าวยังมีข้อบังคับในการเดินทางระหว่างประเทศและการกักตัวที่เข้มงวด
.
ด้านมาตรการท่องเที่ยวสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือ “เราเที่ยวด้วยกัน” นั้นดูเหมือนว่ายังไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนัก เห็นได้จากยอดการใช้สิทธิ์สำหรับส่วนลดในการจองที่พักยังคงอยู่ในระดับต่ำ หรือเพียงราว 18% จากยอดทั้งหมดโดยปัจจุบันรัฐบาลได้อนุมัติมาตรการจูงใจเพิ่มเติม โดยเพิ่มสิทธิสำหรับการจองที่พักได้สูงสุด 10 คืน จากเดิมสูงสุด 5 คืน และตั๋วเครื่องบินสูงสุด 2,000 บาทต่อที่นั่ง จากเดิมสูงสุด 1,000 บาทต่อที่นั่ง ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีจำนวนผู้ใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่
.
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีความไม่แน่นอนสูงและยากต่อการคาดเดา รวมไปถึงสถานการณ์ภัยแล้งและความไม่สงบทางการเมืองในประเทศที่กำลังก่อตัวขึ้น ทำให้ยังต้องเฝ้าระวังต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าที่อาจหดตัวสูงกว่าที่ประเมินไว้ได้