ทิสโก้ เตือนนักลงทุนเลี่ยงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในช่วงนี้ หลังคาดราคามีโอกาสปรับตัวลงอีกกว่า 10%

571
0
Share:

นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ เปิดเผยว่า หลังจากช่วงต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมาธนาคารทิสโก้ได้เตือนลูกค้าให้ชะลอการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี เนื่องจากพบ 2 ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ราคาหุ้นปรับลง ได้แก่ 1. มูลค่าหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นมาก และ 2.อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เพราะในช่วงกลางเดือนก.พ.ราคาหุ้นเทคโนโลยีได้ปรับลงแรง โดย ณ วันที่ 3 มี.ค.64 ดัชนีหุ้น Nasdaq100 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวลงประมาณ -8% จากจุดสูงสุด ณ วันที่ 12 ก.พ.64
.
ทั้งนี้หากนับตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 3 มี.ค.64 หุ้นกลุ่ม FAANG ซึ่งเป็นหุ้นเทคโนโลยีที่มีมูลค่าตลาด (Market capitalization) ขนาดใหญ่อย่าง Facebook ราคาหุ้นปรับลดลง – 6.5%, Apple ราคาหุ้นลดลง -8%, Amazon ราคาหุ้นลดลง -7% รวมถึงหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาสูงในปีที่แล้วอย่าง Tesla ราคาหุ้นก็ปรับลดลงถึง
.
ขณะที่ภาพรวมการลงทุนต่อจากนี้ แม้ว่า Bond yield สหรัฐฯจะเริ่มลดลงมาอยู่ 1.46% ในช่วงสิ้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาสที่ 2/64 ซึ่งศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาดว่ามีโอกาสที่ Bond yield สหรัฐฯจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.20-0.30 % หรือกลับไปอยู่ที่ระดับ 1.6-1.8% จากความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น ซึ่งประเด็นนี้จะกดดันราคาหุ้นเทคโนโลยีให้ผันผวนมากกว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ เนื่องจากหุ้นเทคโนโลยีเป็นหุ้นเติบโตและทำให้มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดจะโดนผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยมากที่สุด รวมถึงมีโอกาสที่จะถูกนักลงทุนเทขายทำกำไรเปลี่ยนกลุ่มการลงทุน ซึ่งธนาคารทิสโก้มองว่ามีโอกาสที่หุ้นเทคโนโลยีจะปรับตัวลงจากปัจจุบันอีกประมาณ 10% ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อในช่วงนี้
.
หากพิจารณาอัตราส่วนยอดขายต่อราคาหุ้น (Price/Sale หรือ P/S) ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ใช้วัดมูลค่าของหุ้นว่าราคาปัจจุบันสูงกว่าปกติ (premium) หรือต่ำกว่าปกติ (discount) นั้น จะพบว่าอัตราส่วนยอดขายต่อราคาหุ้นล่วงหน้าของ ดัชนี Nasdaq100 และ S&P500 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจะอยู่ที่ประมาณ 1.6 เท่า แต่ในปัจจุบัน ณ วันที่ 3 มี.ค.64 ถึงแม้ตลาดหุ้น Nasdaq100 ปรับตัวลงประมาณ -8% จากจุดสูงสุด และอัตราส่วนดังกล่าวยังอยู่ในระดับ 1.73 เท่า ซึ่งอาจหมายความว่าดัชนี Nasdaq100 และ ดัชนี S&P500 ยังมีโอกาสปรับตัวลดลง (Downside risk) อีกประมาณ 10% จึงแนะนำนักลงทุนว่าอย่างเพิ่งรีบช้อนซื้อหุ้นเทคฯในตอนนี้