ทีดีอาร์ไอมองสวนรัฐบาลเศรษฐกิจไทยปีนี้-ปีหน้าไม่วิกฤต ไม่จำเป็นต้องกระตุ้น 5 แสนล้าน

114
0
Share:
ทีดีอาร์ไอ มองสวนรัฐบาล เศรษฐกิจไทย ปีนี้-ปีหน้าไม่วิกฤต ไม่จำเป็นต้องกระตุ้น 5 แสนล้าน

นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยปี 2566 ซึ่งสภาพัฒน์แถลงลดตัวเลขคาดการณ์ลงมาที่ 2.5% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3.6% ที่ 1.1% ถ้าคำนวณตัวเลขอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ หรือจีดีพีในปัจจุบัน หายไป 1.1% นั่นหมายถึงเม็ดเงินหายไป 1.8 แสนล้านบาท ถ้ารัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ละโครงการอย่างน้อยมีเม็ดเงินหมุนเวียนได้ 2 เท่า ก็เทียบเท่ากับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 ใช้เพียง 90,000 ล้านบาท ก็เพียงพอแล้ว ดังนั้น ในภาพเศรษฐกิจระยะสั้น ยังมองว่าไม่เป็นวิกฤต เพราะปัญหายังเป็นขั้นน้อยๆ ที่ล้างแผล เอายาแดงใส่ ปิดแผลก็จบแล้ว

นักวิชาการอาวุโสทีดีอาร์ไอ กล่าวต่อไปว่า เศรษฐกิจจะเข้าสู่วิกฤตเมื่อการเติบโตติดลบ เช่น ปี 2540 เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ในปี 2551 ที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ในปี 2554 วิกฤตน้ำท่วม และปี 2563 เกิดวิกฤตโควิด ซึ่งเศรษฐกิจไทยชะลอตัวอยู่ที่ -6.1% หรือหายไป 9-10% จากค่าเฉลี่ย คิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปราว 1.7 ล้านล้านบาท ถ้าเทียบกับตัวเลขจีดีพีตอนนี้ที่ลดเป้าเหลือ 2.5% กับเป้าเดิม 3.6% พบว่าห่างกันไม่มาก ซึ่งต้องการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง หรืออุดหนุนในบัตรสวัสดิการของรัฐก็พอ ดังนั้น จึงไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลจะต้องใช้เม็ดเงิน 500,000 ล้านบาท

สำหรับเศรษฐกิจปี 2567 ขณะนี้ยังมีภาพที่แตกต่างกัน ธนาคารแห่งประเทศไทย คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวที่ 4% ต่อปี ซึ่งเกินกว่าระดับ 3.6% ภาพนี้ก็คงไม่ต้องทำอะไรเลย แต่อาจจะต้องเก็บภาษีเพิ่มด้วยซ้ำ เพื่อป้องกันปัญหาเงินเฟ้อ ขณะที่สภาพัฒน์กลับมองตัวเลขจีดีพีปี 67 อยู่ที่ 3% ซึ่งลดลงจากค่าเฉลี่ยเพียง 0.6% เท่านั้น รัฐบาลเพียงหามาตรการกระตุ้นเล็กน้อยคล้ายๆ ปี 2566 เท่านั้น ก็พยุงให้กลับมาอยู่ในค่าเฉลี่ยแล้ว ดังนั้น ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้ต้องการ การกระตุ้นระดับ 500,000 ล้านบาท ยังไม่จำเป็น