ทุ่มทุนอุ้ม! ญี่ปุ่นอุ้มค่าเงินเยนกว่า 1.67 ล้านล้านมากเป็นประวัติศาสตร์รอบใหม่

337
0
Share:
ทุ่มทุนอุ้ม! ญี่ปุ่น อุ้ม ค่าเงินเยน กว่า 1.67 ล้านล้านมากเป็นประวัติศาสตร์รอบใหม่

รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคมที่ผ่านไปนั้น ได้ใช้เงินจากกองทุนบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนมากถึง 6.3499 ล้านล้านเยน หรือ 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.67 ล้านล้านบาทในการแทรกแซงค่าเงินเยนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ทำสถิติใช้เงินมากเป็นประวัติศาสตร์รอบใหม่ในการพยุงค่าเงินเยน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา เซ็นทรัล แทนชิ ธุรกิจนายหน้าซื้อขายในตลาดเงินชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จากข้อมูลของดุลบัญชีเดินสะพัดจากธนาคารกลางญี่ปุ่น ทำให้มีความเป็นไปไม่ได้สูงมากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นใช้ทุนสำรองระหว่างประเทศสูงมากถึง 5.5 ล้านล้านเยน หรือ 36,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.42 ล้านล้านบาทเข้าแทรกแซงค่าเงินเมื่อวันศุกร์ที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านไป หลังจากค่าเงินเยนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐดำดิ่งอย่างรุนแรงถึงระดับ 151.59 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติร่วงอ่อนค่ามากที่สุดครั้งใหม่ในรอบ 32 ปี

ที่สำคัญตัวเลขคาดการณ์ทุนสำรองดังกล่าวที่สูงถึง 5.5 ล้านล้านเยน ทำสถิติมูลค่าทุนสำรองที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในการเข้าแทรกแซงค่าเงินซึ่งตกอยู่ในสภาวะถูกเทขายอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง

สำหรับค่าเงินเยนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ 31 ตุลาคม 2565 เมื่อเวลา 18.00 น. เวลาไทย พบว่าค่าเงินเยนเคลื่อนไหวมีดังนี้ ใน 1 สัปดาห์ผ่านมาอ่อนค่า -0.80% ใน 1 เดือนผ่านมาร่วง -2.83% ใน 3 เดือนผ่านมาดิ่ง -11.68% ใน 6 เดือนผ่านมาดิ่งแรงถึง -14.78% ใน 12 เดือนผ่านมาดำดิ่งถึง -30.68% และตั้งแต่ต้นปีนี้ดำดิ่งระนาวถึง -29.34%

อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ญี่ปุ่น นายเอสุเกะ ซากากิบารา ซึ่งได้รับฉายาว่า มิสเตอร์เยน กล่างว่า ค่าเงินเยนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐอาจร่วงลงอย่างหนักไปแตะระดับ 170 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2566 นั่นหมายถึงในปัจจุบันที่ค่าเงินเยนอ่อนค่ามาเคลื่อนไหวระหว่าง 146-150 ต่อดอลลาร์สหรัฐ และร่วงลงลึกสุดที่ 151.59 ต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านไป ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 32 ปี นั้น อาจทรุดอีกราว 13% จากอัตราปัจจุบัน

ทั้งนี้ มิสเตอร์เยน กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มุมมองของบรรดานักธุรกิจญี่ปุ่นล้วนประเมินไปในอนาคตว่าค่าเงินเยนจะร่วงต่อเนื่องไปที่ระดับ 170 ต่อดอลลาร์สหรัฐ