“ธนกร” ชี้ต้องหาเสียงวิธีใหม่ ใช้สื่อดิจิตอล รีแบรนดิ้งพรรครวมไทยสร้างชาติ

185
0
Share:
ธนกร ชี้ต้องหาเสียงวิธีใหม่ ใช้สื่อดิจิตอล รีแบรนดิ้งพรรค รวมไทยสร้างชาติ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า วิธีการหาเสียงแบบเดิมจะต้องปรับเปลี่ยนและต้องใช้ดิจิทัล ในพรรคมีคนรุ่นใหม่อยู่มาก บางคนมาจากพรรคที่ได้รับชัยชนะด้วยซ้ำไป ดังนั้น ต้องปรับยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างคนทุกรุ่นให้ไปด้วยกันได้ ตนเชื่อว่ารวมไทยสร้างชาติจะไปได้ในอนาคต อาจต้องรีแบรนดิ้งพรรค และใช้ความรู้ความสามารถของคนทุกรุ่น มาผสมผสานกัน มั่นใจว่ายังไปต่อได้ โดยได้พูดคุยกับนายเอกนัฏประเด็นนี้แล้ว

นอกจากนี้ ได้พูดคุยกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าเราต้องถอดบทเรียนในการทำการเมือง เพราะขณะนี้โลกเปลี่ยนไป แม้คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จะสูงเกือบ 5 ล้านเสียง ซึ่งถือว่าสูงมากกว่าหลายพรรคการเมือง แต่ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งต้องปรับเปลี่ยนบ้าง เพราะขณะนี้เป็นโลกของคนรุ่นใหม่

นายธนกร วังบุญคงชนะ กล่าวต่อไปว่า วันนี้เห็นทางพรรคว่าที่รัฐบาลตั้งรัฐบาลได้ก็ยินดีด้วย เพราะจะได้เข้าไปบริหารบ้านเมืองตามนโยบายตามที่เคยบอกไว้ แต่ขอฝากไปยังพรรคก้าวไกลว่าวันนี้ขอให้ว่าที่ผู้สมัครหลายคนหยุดพฤติกรรมกดดัน ส.ว. โจมตีผู้อื่น อยากให้มีวุฒิภาวะมากกว่านี้ เพราะท่านต้องไปขอเสียงสนับสนุนจากเขา

ถ้าต้องการเสียงสมาชิกวุฒิสภาต้องไปเจรจาด้วยเหตุผลพูดจาด้วยดีดี บุคคลเหล่านั้นมีวุฒิภาวะและมององค์ประกอบหลายอย่าง คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าใช้พฤติกรรมกดดัน เขาก็มีเอกสิทธิ์ที่จะไม่ฟังใคร เช่นเดียวกับตัวตน ถ้าตนจะโหวตให้ท่าน แต่ท่านก็ยังคงด่าตนแบบนี้ ตนจะโหวตให้ท่านทำไม ควรต้องคุยกันดีๆ จะได้บรรยากาศที่ดี เพราะตนพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ไม่มีปัญหา

“คนที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็อยากให้นึกถึงบ้านเมือง ตนเป็นกำลังใจ เอาใจช่วย ในฐานะคนใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้พูดอะไร ก็ให้คนที่ได้เป็นอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลไป และให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามรัฐธรรมนูญ อารมณ์ดี ไม่ได้มีปัญหา เข้าใจสังคมการเมืองอยู่แล้ว เชื่อว่าพรรคก้าวไกลตั้งได้อยู่แล้ว เห็นว่ามีพรรคมารวมหลายเสียง พรรคละ 1 เสียงก็หลายพรรค

ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับกระบวนการทางการเมือง หลังการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม และแนวทางการทำงานต่อไปของพรรครวมไทยสร้างชาติ มีดังนี้

ทราบข่าวการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคก้าวไกล ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นกระบวนการปกติในทางปฏิบัติที่พรรคอันดับหนึ่งจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่พรรคอันดับต้น ไม่ใช่หน้าที่หรือภารกิจของพรรคเรา และผมเองคงไม่ไปท้าทาย กีดกัน หรือขัดขวางภารกิจของพรรคอื่นด้วยเช่นกัน

“ผมในฐานะเลขาธิการพรรคฯ ขอน้อมรับคำพิพากษาของประชาชนแบบตรงไปตรงมา แต่ก็จะรักษาจุดยืนไว้อย่างมั่นคง หากรัฐบาลมีวาระที่จะยกเลิกหรือแก้ ม.112 ผมก็สมัครใจไปเป็นฝ่ายค้าน พร้อมทำงานไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม สิ่งที่ผมคิดต่อจากนี้คือการวางแผน ออกแบบการขับเคลื่อนพรรคต่อไป พรรคเราเป็นพรรคใหม่ ทุกคะแนน ทุกที่นั่งถือเป็นความสำเร็จของพรรค หน้าที่ผมในวันนี้ไม่ใช่การไปช่วงชิงจะเป็นรัฐบาล แต่คือการนำทุก ๆ คะแนนจาก 4,673,691 คะแนนเสียงที่พี่น้องประชาชนลงทุนให้กับพวกเรามาแล้วไปขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติให้เจริญเติบโต ทันสมัย เป็นสถาบันการเมือง ที่จะเป็นที่พึ่งให้กับคนทุกรุ่น เป็นความหวังให้กับคนรุ่นใหม่ ยึดมั่นในอุดมการณ์ สร้างชาติให้ยิ่งใหญ่ สร้างประเทศไทยให้มั่นคงต่อไปครับ”