ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำเพิ่มเกือบ 2 เท่าในทุนสำรองระหว่างประเทศ

สภาทองคำโลก หรือ WGC เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2565 ธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มการสะสมทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศขึ้นถึง 35 เมกตริกตัน หรือเพิ่มขึ้น 1.8 เท่าจากในเดือนเมษายนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น 19.4 เมตตริกตัน

ธนาคารกลางประเทศตุรเกีย (ชื่อเดิมตุรกี) เป็นธนาคารที่ซื้อทองคำเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยซื้อเพิ่มขึ้นถึง 13 เมตตริกตัน ตามด้วยธนาคารกลางประเทศอุซเบกิสถานซื้อเพิ่มขึ้น 9 เมตตริกตัน อันดับ 3 คือธนาคารกลางประเทศคาซัคสถานซื้อเพิ่ม 6 เมตตริกตัน ธนาคารกลางประเทศการ์ตาซื้อเพิ่ม 5 เมตตริกตัน และธนาคารกลางประเทศอินเดียซื้อเพิ่ม 4 เมตตริกตัน

สภาทองคำโลก หรือ WGC เปิดเผยว่า ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านไป ยังพบว่าธนาคารกลางทั่วโลกยังคงซื้อทองคำสะสมเพิ่มขึ้นในทุนสำรองระหว่างประเทศ ธนาคารกลางประเทศอิรักประกาศซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 34 เมตตริกตัน ส่งผลให้มีทองคำสะสมเพิ่มเป็น 130 เมตตริกตัน การซื้อทองคำของธนาคารกลางอิรักในปริมาณมากขนาดนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี 10 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2018 เป็นต้นมา สำหรับข้อมูลดังกล่าว สภาทองคำโลกจะได้จัดส่งไปยังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟต่อไป

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงปัจจุบัน ธนาคารประเทศตุรเกียยังคงเป็นธนาคารกลางที่ซื้อทองคำสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 54 เมตตริกตัน อันดับ 2 อียิปต์ 44 เมตริกตัน และอันดับ 3 อิรัก 34 เมตตริกตัน

สภาทองคำโลก หรือ WGC ได้เปิดเผยผลสำรวจก่อนหน้านี้ว่า 25% ของธนาคารกลางทั่วโลก จะเพิ่มการซื้อทองคำสะสมมากขึ้นในทุนสำรองระหว่างประเทศในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจในปีที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนที่ 21% ของธนาคารกลางทั่วโลก

ทั้งนี้ สภาทองคำโลก กล่าวว่า สาเหตุที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ มาจากผลตอบแทนของทองคำในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ และทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าในระยะยาว ได้เป็นเครื่องมือในการประกันความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนอย่างรุนแรง และในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในรอบหลายทศวรรษในทุกประเทศในปีนี้