ธนาคารกลางอังกฤษตามติดค่าเงินปอนด์ดิ่งแรง ปรับเปลี่ยนดอกเบี้ยระยะสั้นรับมือค่าเงิน

ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ นายแอนดริว ไบเลย์ กล่าวว่า ธนาคารกลางอังกฤษกำลังติดตามและประเมินพัฒนาการในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิดในด้านการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์การเงิน ธนาคารกลางอังกฤษจะไม่นิ่งนอนใจในการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเท่าที่จำเป็นในการแก้ไขอัตราเงินเฟ้อให้กลับเข้าสู่ 2% ตามเป้าหมายที่ยั่งยืนในระยะกลาง

การกล่าวของผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษมีขึ้นในช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาในอังกฤษ หลังเกิดสถานการณ์ค่าเงินปอนด์สเตอริงเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐถูกเทขายอย่างรุนแรง ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์สเตอริงในตลาดเอเชียร่วงลงทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 1.03 ต่อดอลลาร์สหรัฐ

แรงเทขายเงินปอนด์สเตอริงยังเกิดขึ้นต่อเนื่องเมื่อเปิดตลาดซื้อขายในประเทศอังกฤษที่กรุงลอนดอนในวันแรกของสัปดาห์นี้ โดยค่าเงินปอนด์สเตอริงเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.0327 ตกต่ำถึง 4.8%

สาเหตุของการเทขายเงินปอนด์สเตอริงอย่างรุนแรงเกิดจากนักลงทุนขาดความมั่นใจในนโยบายการคลังของนายกรัฐมนตรีหญิงทรัสส์ที่ประกาศตัดลดการเก็บภาษีที่มีมูลค่ามากถึง 45,000 ล้านปอนด์สเตอริง หรือสูญเสียรายได้จากภาษีถึง 1.85 ล้านล้านบาทในช่วงปี 2026-2027 นายพอล จอห์นสัน ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษานโยการคลัง สหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า นับเป็นการปรับขนาดการลดอัตราภาษีที่มากที่สุดในรอบกว่า 50 ปีผ่านมา

นอกจากนี้ธนาคารกลางอังกฤษ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ เนื่องจากในไตรมาสที่ 2 เศรษฐกิจอังกฤษชะลอตัว -0.1% หลังจากปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึง 0.50% ในสัปดาห์ผ่านไป

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2565 ค่าเงินปอนด์สเตองริงเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงหนักมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.103 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 37 ปี