ธนาคารยักษ์ใหญ่ชื่อดังเตรียมปลด 3,000 คนในไตรมาสนี้ ชี้ตลาดซื้อควบรวมกิจการซบเซา
ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าเตรียมปลดพนักงานออกเป็นจำนวน 3,000 คนภายในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ส่งผลให้เป็นการปลดพนักงานรอบที่ 2 ภายใน 6 เดือนผ่านมา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ นายเจมส์ กอร์แมน กล่าวว่า ปัจจัยภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่เต็มไปด้วยความหนักหน่วง ธุรกรรมการควบรวมกิจการของลููกค้าภาคธุรกิจในสหรัฐอเมริกาที่ชะลอตัวลงอย่างมากและต่อเนื่อง รวมถึงจำนวนธุรกรรมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลดลงจากความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจ ส่งผลให้ธนาคารมีความจำเป็นที่ต้องลดและควบคุมค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ รายได้จากค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมควบรวมกิจการตกต่ำลงอย่างมาก กระทบผลประกอบการในภาพรวมลดลงกว่า 2% มาอยู่ที่ 14,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 507,500 ล้านบาท
ดีลโลจิกส์ เปิดเผยว่าในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ตลาดควบรวมกิจการในสหรัฐอเมริกาลดลงอย่างมากเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา กระทบรายได้ของธนาคารในกลุ่มประเภทธุรกิจวาณิชธนกิจ หรือ Investment Banking
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 นายเจมส์ กอร์แมน ซีอีโอธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า ธนาคารจะต้องปรับลดจำนวนพนักงานทั่วโลกลงปานกลาง โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ข้อมูลการจ้างงานของธนาคารธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ เมื่อสิ้นสุดเดือนมีนาคมผ่านมา มีจำนวนกว่า 82,000 คนทั่วโลก ดังนั้น การปลดพนักงานรอบใหม่ครั้งนี้จะคิดเป็น 4% ของพนักงานทั้งหมด