ธปท.คาดโควิดลากเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปีนี้ดิ่งเหวหนักสุด

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ค. 2563 ยังมีทิศทางการหดตัวอยู่ในระดับสูง และอาจจะชะลอตัวต่อเนื่องไปจนถึงเดือน มิ.ย. 2563 แม้ว่ารัฐบาลจะมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ และเร่งโอนเงินเราไม่ทิ้งกันให้ผู้ได้รับสิทธิ์
.
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเป็นศูนย์ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ที่อาจทำให้ติดลบมากขึ้น ส่วนเรื่องการส่งออกสินค้ายังต้องติดตาม ซึ่งปัจจัยทั้งหมดสอดคล้องกับคาดการณ์ที่ว่าไตรมาส 2/2563 เศรษฐกิจจะหดตัวลึกที่สุด และถามว่าจะถดถอยเท่าไหร่
.
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือน เม.ย. 2563 หดตัวสูงขึ้น จากผลของมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดทั้งในและต่างประเทศที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนต้องหยุดลงชั่วคราว โดยภาคการท่องเที่ยวหดตัวสูง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ หดตัว 100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการห้ามเดินทางเข้าประเทศของไทย เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร รวมถึงธุรกิจขนส่งผู้โดยสาร
.
นอกจากนี้ ภาคการส่งออกสินค้าหดตัวสูงขึ้นมากตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้า โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัว 3.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมการส่งออกทองคำ ที่มีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนนี้ ซึ่งมูลค่าการส่งออกหดตัวสูงที่ 15.9% โดยเป็นการหดตัวสูงในหมวดยานยนต์และชิ้นส่วน สินค้ากลุ่มที่มูลค่าเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันดิบ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรและอุปกรณ์ จากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลงมาก
.
ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้จะมีความเปราะบางมากขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงานตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง และมาตรการลดค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบให้ประชาชนของภาครัฐ
.
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวกแต่ปรับลดลงต่อเนื่องสอดคล้องกับทิศทางของอุปสงค์ในประเทศ ด้านตลาดแรงงานเปราะบางขึ้น สะท้อนจากจำนวนผู้ขอรับสิทธิ์ว่างงานในระบบประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นมาก