ธปท.ลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจต้นปีหน้า

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.25% รวมทั้งการปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อเอื้อให้เงินทุนไหลออกเพื่อลดแรงกดดันค่าเงินบาทว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในรอบนี้มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้ ซึ่ง ธปท.ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าต้องการรักษาเป้าหมายวินัยการเงินในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ เพื่อดูแลให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย 1-4% หลังจากหลุดกรอบมาระยะหนึ่งแล้ว
.
รวมทั้งความคาดหวังว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้นกว่า 3% นี่คือเจตนารมย์ของ ธปท. แต่กว่าที่นโยบายการเงินที่จะส่งผ่านไปถึงระบบเศรษฐกิจได้ อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-9 เดือน ซึ่งต้องเสริมด้วยนโยบายการคลัง โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ทั้งการประกันรายได้เกษตรกร, กระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวของประชาชน จากมาตรการชิมช็อปใช้ และกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยเอื้อต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมในช่วงปลายไตรมาส 1 หรือไตรมาส 2 ของปี 2563 พร้อมประเมินว่าทั้งปี 2563 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตในกรอบ 3.0-3.5%
.
อย่างไรก็ตามผลทางจิตวิทยาที่ ธปท.ลดดอกเบี้ย และมีมาตรการที่ช่วยลดแรงกดดันการแข็งค่าของเงินบาทนั้น จะเป็นจิตวิทยาในเชิงบวก ถ้าเงินบาทอยู่ที่ 30.30-30.50 บาท/ดอลลาร์ จะเอื้อต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีผลเป็นรูปธรรมได้เร็ว และอาจทำให้บรรยากาศความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนนี้หรือเดือนหน้าดีขึ้นได้