ธุรกิจสุดเห่อเกี่ยวข้องเมตาเวิร์สแห่ลดจ้างงานกว่า 80%

บริษัท รีเวลิโอ แลปส์ Revelio Labs เปิดเผยว่า อัตราการจ้างงานในทุกกลุ่มธุรกิจที่พัฒนาเกี่ยวกับการสร้างแพลตฟอร์มโลกเสมือนจริงที่เป็นกระแสเรียกว่า เมตาเวิร์ส Metaverse หรือจักรวาลนฤมิตร ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมาลดลงมากถึง 81%

ก่อนหน้านี้ มีการจ้างเพิ่มขึ้นในสายงานสร้างและพัฒนาเมตาเวิร์สโดยการจุดกระแสของการปรับเปลี่ยนชื่อบริษัทเฟซบุ๊ก อินคอร์ปอเรชั่น ไปเป็นชื่อใหม่ว่า เมตา อินคอร์ปอเรชั่น หรือ Meta เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่ที่จะมุ่งสู่โลกแพลทฟอร์มเมตาเวิร์ส Metaverse ซึ่งทำให้หลายบริษัทล้วนแห่ไปพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าวจนกลายเป็นกระแสแฟชั่น

นายจิน หยาน นักวิเคราะห์จาก รีเวลิโอ แลปส์ มองว่า สาเหตุจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้บริษัทชั้นนำจำนวนมากปรับงบประมาณและความต้องการการจ้างงานใหม่ ซึ่งส่งผลให้ความต้องการพนักงานด้านเทคโนโลยีและซอฟท์แวร์ในการสร้างและพัฒนาเมตาเวิร์ส Metaverse ลดลงอย่างมากและต่อเนื่อง

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ เมตา อินคอร์ปอเรชั่น นายมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ยอมรับว่า ผลประกอบการโดยเฉพาะรายได้ที่ลดลง ทำให้ต้องชะลอการจ้างงานใหม่ รวมถึงการลงทุนในระยะยาว ในขณะเดียวกันบริษัทอัลฟาเบธ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิ้ล ที่กำลังจะพัฒนาเมตาเวิร์ส ประกาศว่าได้ชะลอการจ้างงานใหม่

ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ชะลอตัวต่อเนื่องถึง 2 ไตรมาสติดกัน ทำให้บริษัทเทคโนโลยีหลายรายชะลอการจ้างงาน โดยเฉพาะการจ้างงานในสายงานนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และเมืองออสติน รัฐเท็กซัส พบว่าลดลงมากถึง 8.4% ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ Indeed แม้ว่าการจ้างงานเพื่อพัฒนาเมตาเวิร์สแบบพนักงานประจำจะลดลง แต่จำนวนงานฟรีแลนซ์สำหรับบริการที่เกี่ยวข้องดังกล่าว เช่น การพัฒนา Avatar และ การออกแบบ 3D นั้น กลับเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า ตามข้อมูลของ Fiverr International Ltd.