ธุรกิจอสังหาจวกมติ กกต. เป็นเกมการเมือง ชี้ศก.ไทยครึ่งปีหลังไม่ฟื้น ใครขึ้นเป็นนายก

นายวรวุฒิ กาญจนกูล กรรมการกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านและประธานบริหารบริษัท ดับบลิวเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า ประเด็น กกต. ในวันนี้ เกี่ยวกับมีมติส่งเรื่องการถือครองหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจาก พรรคก้าวไกลต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมายต้องรอดูการตีความของศาลว่าจะออกมาอย่างไรและตัดสินเมื่อไร ตอนนี้สถานการณ์การเมืองคาดเดาได้ยาก ต้องลุ้นวันต่อวัน แต่คิดว่ามีการวางหมากเกมกันไว้แล้ว ถ้าเหตุการณ์ออกมาแบบนี้ จะต้องเตรียมตัวอย่างไร

ถ้ามองในแง่ของภาคธุรกิจ ถ้าคุณพิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะมีการออกมาชุมนุมประท้วงจากเสียงของประชาชนที่สนับสนุน ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังไม่ฟื้นตัว จากความวุ่นวายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหากไม่สามารถควบคุมได้ จะทำให้สถานการณ์กลับไปวนสู่วังวนเก่าๆ เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ดังนั้นฝ่ายการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งต้องคุยกันให้ดี ให้เกิดความรอมชอม และประนีประนอม

ตอนนี้ตอบยากและมองไม่ออกใครจะมาเป็นนายกรัฐมตรี ถ้าไม่ใช่คุณพิธา ดูจากชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของแต่ละพรรคแล้ว อย่างพลเอกประวิตรจากพรรคพลังประชารัฐก็มีโอกาส เพราะสามารถรวบรวมเสียงได้ และมีกลุ่มทุนสนับสนุน แต่ที่ผ่านมาประชาชนได้เห็น และรับรู้การบริหารงานของรัฐบาลชุดเก่าแล้วว่าเป็นอย่างไร

ส่วนคุณแพทองธารอายุยังน้อย ขณะที่คุณเศรษฐาก็มีโอกาส อยู่ที่เสียงสนับสนุนมากกว่า ซึ่งไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงวุ่นวายอย่างนี้ จะลำบากเจอปัญหารอบด้าน ทั้งม็อบและเศรษฐกิจโลกก็ยังไม่ค่อยดี ไม่ว่าใครขึ้นมาก็ต้องมีความชัดเจนและเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุนโดยเร็ว