ธุรกิจโรงแรมหมดแรง วอนรัฐทบทวนเก็บภาษีที่ดิน 100% ขอผ่อนปรนอย่างน้อย 2 ปี

499
0
Share:

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) ได้เรียกร้องให้ภาครัฐทบทวนการเก็บภาษีที่ดิน เพราะธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตโควิดมานานกว่า 2 ปี มากกว่าธุรกิจอื่นๆ หากรัฐเก็บภาษีที่ดิน 100% เพราะเป็นการประเมินที่ดินและสินทรัพย์ โดยไม่ได้นำการขาดรายได้ของธุรกิจโรงแรมมาร่วมพิจารณาด้วย ทำให้ภาษีที่ดินกลายเป็นปัญหาใหญ่ของธุรกิจโรงแรม และยังทำให้โรงแรมส่วนใหญ่หมดแรงไปต่อ เพราะสถานการณ์ท่องเที่ยวยังไม่ปกติ จึงอยากเรียกร้องให้มีการจัดเก็บแบบขั้นบันได ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทยอยเก็บปีละ 5% 10% และอยากขอผ่อนปรนการจัดเก็บไปอีกอย่างน้อย 2 ปี เพื่อประเมินสถานการณ์และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าจัดเก็บภาษีที่ดินจะเริ่มตั้งเดือน เม.ย.65 เป็นต้นไป จากก่อนหน้านี้รัฐบาลลดหย่อนการจัดเก็บ 90% โดยรัฐได้จัดเก็บเพียง 10% เพื่อช่วยลดภาระผู้เสียภาษี แต่ปี 2565 จะเริ่มเก็บตามอัตราภาษีที่ระบุไว้ ประชาชนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการลดหย่อนภาษีที่ดินทำให้รัฐสูญรายได้ไปราว 35,000 ล้านบาท

สำหรับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะเก็บเป็นอัตราขั้นบันไดของมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และแยกประเภทที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกเป็น 3 ประเภท คือ

1.ที่ดินเพื่อการเกษตร มีอัตราภาษีตั้งแต่ 0.01-0.1% โดยยกเว้นภาษีให้กับที่ดินเพื่อการเกษตรที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาทและใน 3 ปีแรก (ปี 63-65) กรณีเป็นที่ดินเกษตรของบุคคลธรรมดาไม่ใช่นิติบุคคล ไม่ต้องมีภาระภาษี

2.ส่วนที่ดินเพื่ออยู่อาศัย มีอัตราตั้งแต่ 0.02-0.1% กรณีเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและเป็นบ้านหลังหลักของคนคนนั้น มีชื่อเป็นเจ้าของและมีชื่อในทะเบียนบ้านหลังนั้นที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี

3.ที่ดินประเภทอื่นๆ อาทิ ที่ดินเพื่อพาณิชย์ อุตสาหกรรม และที่รกร้างว่างเปล่า ไม่ได้ทำประโยชน์ตามควร มีอัตราภาษีตั้งแต่ 0.3-0.7% เฉพาะที่ดินรกร้างว่างเปล่าจะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 0.3% ในทุกๆ 3 ปี แต่อัตราภาษีรวมต้องไม่เกิน 3%