นักลงทุนยังมั่นใจการลงทุนครึ่งปีหลัง

778
0
Share:

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางกลยุทธ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหาร หรือ CEO Survey ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และการเติบโตของธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 พบว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโต 2-3% โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐ และ การขยายตัวของการท่องเที่ยว ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยเสี่ยง ส่วนภาพรวม SET Index เดือน ก.ย. พบค่า P/E ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดเอเชีย
.
อย่างไรก็ตาม CEO ส่วนใหญ่ 80% คาดว่า รายได้ยังคงเติบโต และ 52% คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตมากกว่า 6% โดยเฉพาะบริษัทในหมวดการท่องเที่ยว และ สันทนาการ หมวดวัสดุก่อสร้าง
.
แต่ในระยะถัดไป CEO ยังเพิ่มความระมัดระวังในการขยายการลงทุนมากขึ้น โดย 87% ของ CEO ยังคงแผนการลงทุน หรือ เพิ่มแผนการลงทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่ยังคงแผนการลงทุน ประกอบด้วย ไอซีที , พลังงาน , กลุ่มการเงิน และ อสังหาฯ
.
ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศยังเน้น CLMV และ อาเซียนเป็นหลัก โดยกลุ่มธุรกิจที่มีแผนขยายไปลงทุนในต่างประเทศ ประกอบด้วย พลังงาน , ปิโตรเคมี และ ประกัน

.
อย่างไรก็ตามกลุ่ม CEO มีความกังวลมากขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าจะส่งผลลบต่อธุรกิจ ในทางกลับกันเห็นว่า การยกระดับมาตรฐานด้าน ESG จะส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจมากกว่าปัจจัยอื่น ซึ่งผลสำรวจ CEO จะทำปีละ 2 ครั้ง และ ครั้งต่อไปจะทำอีกทีต้นปี 2563
.
สำหรับภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์ในเดือนเดือนกันยายน 2562 พบว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ 1,637.22 จุด ลดลง 1.1% จากสิ้นเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 4.7% จากสิ้นปี 2561 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนกันยายน 2562 อยู่ที่ 57,417 ล้านบาท ลดลง 1.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิ 11,576 ล้านบาทในตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับทุกตลาดในอาเซียน
.
อย่างไรก็ตามเดือนตุลาคมนี้ มีปัจจัยที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญ และติดตามมากสุด 3 ประเด็น อย่างแรก คือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่จะเปิดการเจรจากันในวันที่ 10 ต.ค.นี้ และ นโยบายการเงินของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ ตลอดจนนโยบายการเงินในประเทศ ซึ่งทำให้ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย แต่ตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 4 ตุลาคมพบว่า นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิลดลงมาอยู่ที่ 0.06% ของมาร์เก็ตแคป