นักวิชาการชี้ปรับโครงสร้างภาษียาสูบ 2 ปีบุหรี่เถื่อนพุ่ง จี้รัฐแก้ภาษีเหลืออัตราเดียว

214
0
Share:
นักวิชาการชี้ปรับโครงสร้าง ภาษียาสูบ 2 ปี บุหรี่เถื่อน พุ่ง จี้รัฐแก้ภาษีเหลืออัตราเดียว

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลใหม่โดยนอกจากขอให้แก้ไขปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมาย พร้อมเสนอให้ปรับอัตราภาษีบุหรี่ให้เหลืออัตราเดียว เพื่อลดปัญหาบุหรี่ไทยเสียเปรียบบุหรี่ต่างประเทศ

เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์การลักลอบค้าขายบุหรี่หนีภาษี หรือบุหรี่เถื่อนทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายภาษีสรรพสามิตยาสูบในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ทำให้ราคาบุหรี่ในตลาดปรับเพิ่มขึ้น และทำให้เกิดข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร รัฐบาลก่อนได้มีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบไปครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2564 ณ บัดนี้ก็เกือบจะครบ 2 ปีแล้วหลังจากที่มีการปรับโครงสร้างครั้งนั้น ทำให้สามารถประเมินผลดีผลเสียที่เกิดขึ้นได้ในระดับหนึ่งแล้ว

โดยปัจจุบันไทยใช้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่แบบผสม โดยเก็บภาษีปริมาณในอัตรา 1.25 บาทต่อมวน และเก็บภาษีมูลค่าแบบ 2 อัตรา ได้แก่ 1) บุหรี่ราคาไม่เกิน 72 บาทต่อซอง เสียภาษีร้อยละ 25 ของราคาขาย และ 2) ร้อยละ 42 สำหรับบุหรี่ราคาเกิน 72 บาท

นอกจากนี้ ยังมีการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิต จนทำให้ราคาขายบุหรี่ราคาถูกในตลาดเพิ่มขึ้นจากซองละ 40 บาท เป็นซองละ 67 บาท หรือร้อยละ 68 ทั้งนี้ หากพิจารณาในแต่ละมิติที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบายภาษีสรรพสามิตแล้วพบว่าบุหรี่เถื่อนเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยคิดเป็นร้อยละ 22 ของบุหรี่ในตลาด หรือเกือบ 1 ใน 4 ซองของบุหรี่ที่คนไทยสูบคือบุหรี่เถื่อน ยังไม่นับรวมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่รายได้สรรพสามิตยาสูบมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ในปีงบประมาณ 2566 รัฐเก็บภาษียาสูบได้เท่ากับ 57,683 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2564 ก่อนปรับขึ้นภาษีครั้งล่าสุดที่อยู่ที่ระดับ 64,199 ล้านบาท อีกทั้งนักสูบเปลี่ยนไปสูบบุหรี่เถื่อนที่มีอันตรายมากกว่า เพราะไม่ได้มีการควบคุมการผลิตจากรัฐบาล ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายทั้งภาพคำเตือน การแจ้งสูตร และสีสันที่หีบห่อ

นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของ ยสท. ถดถอยลง ในปี 2565 กำไรหดเหลือ 120 ล้านบาท และล่าสุดใน 9 เดือนแรกของปี 2566 มีกำไร 240 ล้านบาท โดย ยสท. เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษี จนทำให้ยอดขายหดตัวลงและรับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ยาสูบได้น้อยลงกว่าร้อยละ 50