นักวิเคราะห์คาดธุรกิจค้าปลีกทยอยฟื้นตัว มูลค่าปี 66 โต 10% ยังจับตาปัญหาหนี้ครัวเรือน

203
0
Share:
นักวิเคราะห์คาดธุรกิจ ค้าปลีก ทยอยฟื้นตัว มูลค่าปี 66 โต 10% ยังจับตาปัญหา หนี้ครัวเรือน

น.ส.ชญานิศ สมสุข นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธุรกิจค้าปลีกมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นต่อเนื่องในปี 2566 คาดว่ามูลค่าตลาดจะเติบโตราว 10% จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและการฟื้นตัวของการบริโภค โดยคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3.7 ล้านล้านบาท โดยกลุ่ม Store-base retailing (ธุรกิจค้าปลีกแบบมีหน้าร้าน) จะกลับมามีมูลค่าเท่าก่อนช่วงโรคระบาดในปี 2567 ส่วน Non-store retailingผธุรกิจค้าปลีกแบบไม่มีหน้าร้าน) ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

โดยในครึ่งแรกของปี 2566 ธุรกิจค้าปลีกสามารถเพิ่มยอดขายจากนโนบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาในประเทศมากขึ้นในครึ่งหลังของปี 2566 อย่างไรก็ดี มีปัจจัยที่ยังต้องระวัง อาทิ ราคาสินค้าและหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคยังมีความเปราะบาง อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ต้นทุนด้านการเงินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีระดับการกู้ยืมสูง การอ่อนค่าของเงินบาทที่กระทบกลุ่มสินค้านำเข้า

ส่วน อี-คอมเมิร์ส ยังเติบโตต่อเนื่องและมีแนวโน้มแข่งขันรุนแรง แม้ชะลอตัวหลังจากผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตใกล้เคียงกับก่อนช่วงโรคระบาด เพราะผู้บริโภคมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงมารซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น จากความสะดวกสบาย โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกออนไลน์Marketplace retailers ที่มีสินค้าหลากหลาย ผู้ขายหลายราย ทำให้ผู้บริโภคเปรียบเทียบราคาและบริการของแต่ละร้านค้า นอกจากนี้ Buy Now Pay Later (BNPL) ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง ยังมีบทบาทสำคัญในธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะกลุ่มการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัว อาจนำ BNPL มาเป็นอีกหนึ่งช่องทางการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้า หนุนให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เพื่อเพิ่มยอดขายของร้านค้าแต่ต้องระมัดระวังเรื่องหนี้ภาคครัวเรือน