นายกฯย้ำการพิจารณาเรื่องพ.ร.ก.ฉุกเฉินต้องให้ความสำคัญกับสาธารณสุขเป็นอันดับแรก

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เรื่องพ.ร.ก.ฉุกเฉินจะเป็นการพิจารณาของศูนย์โควิด 19 ซึ่งต้องคำนึงถึงมาตรฐานด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ส่วนจะมีใครทำโพลล์มานั้นก็เป็นเรื่องของโพลล์ไป เพราะทางศูนย์โควิด 19 จะให้ความสำคัญกับสาธารณสุขเป็นอันดันแรก และถึงแม้ผู้ติดเชื้อจะเป็น 0% ก็ยังวางใจไม่ได้ ดังนั้นต้องให้ความร่วมมือเพื่อไม่ให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อมากขึ้น เพื่อให้สามารถเดินหน้าไปสู่การผ่อนปรนระยะที่ 2 และ 3 ได้ เพราะต้องเห็นใจประชาชนที่มีรายได้น้อย และกิจการที่มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงที่ได้รับผลกระทบ
.
ที่สำคัญประมาณวันที่ 15 พ.ค.นี้ คณะกรรมการศูนย์โควิด จะไปตรวจเยี่ยมสถานที่ ที่จะทำการผ่อนปรนหรือปลดล็คอระยะที่ 2 ว่ามีแผนดำเนินการตามข้อปฏิบัติของศูนย์โควิดครบถ้วนหรือไม่ หรือมาตรการใดเพิ่มเติม เพื่อเป็นแบบอย่างให้สถานประกอบการอื่นนำไปใช้เท่าเทียมกัน “เพราะอะไรเปิดได้ก็ปิดได้ หากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด”
.
นอกจากนี้ขอชื่นชมเอกชนและประชาชนที่ช่วยกันดำเนินโครงการตู้ปันสุข แต่เตือนประชาชนบางกลุ่มว่าควรมีสำนึก เพราะการทำโครงการเพื่อให้มีการแบ่งปันกัน แต่ภาพที่ออกมาแย่งของกันนั้น อย่าให้เกิดขึ้นอีกในสังคมไทย ต้องเห็นใจผู้อื่นด้วย ถ้าท่านทำแบบนั้น จะไม่มีใครบริจาค และผู้อื่นจะไม่ได้ไปด้วย
.
ส่วนการสอบถามเรื่องความมั่นคงเข้ามา ตนขอไม่ตอบคำถามในส่วนนี้ แต่ต้องมีการไปพิจารณาว่ามีความผิดอะไรหรือไม่ เพราะการกระทำดังกล่าวในช่วงเวลาแบบนี้ถือว่าไม่เหมาะสม ในการนำเรื่องต่างๆมาปะปนกับสถานการณ์แพร่ระบาดในช่วงโควิด 19
.
ขณะที่กรณีข่าวครูทำอนาจารนักเรียนนั้น ให้ดำเนินการลงโทษเต็มอำนาจ ถ้ามีการกระทำความผิดและมีหลักฐานชัดเจน