นายกฯสั่งเร่งภาษี e-Business

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ …) พ.ศ.…เพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Business จากผู้ให้บริการในต่างประเทศว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และเร่งให้กรมสรรพากรดำเนินการจัดเก็บภาษี e-Business อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อต้องการให้เกิดความเป็นธรรม โดยเฉพาะผู้ประกอบการในประเทศที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT 7% ส่วนผู้ประกอบการต่างประเทศที่ขายสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์โดยไม่ได้มีบริษัทในไทย ต่อไปก็จะต้องเสียภาษีเช่นเดียวผู้ประกอบการไทยด้วย
.
โดยกฎหมายดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการตรวจรายละเอียดของคณะกรรมการกฤษฎีกา และต้องพิจารณาเป็นรายมาตรา เพราะเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญ และเมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้วเสร็จ จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อออกเป็น พ.ร.บ.บังคับใช้ต่อไป “คาดว่าในทางปฏิบัติ จะได้ใช้จริงคือปีงบประมาณ 2564 และเม็ดเงินที่จะจัดเก็บได้ในปีแรก คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท เฉพาะบริษัทของต่างประเทศ
.
โดยการปรับปรุงกฎหมายทางภาษีต่างๆ มุ่งหวังเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีระหว่างผู้ค้าที่จดทะเบียนร้านค้าและเข้าระบบฐานภาษีปกติ กับร้านค้าที่อยู่ในโลกออนไลน์ที่ไม่มีข้อมูลอยู่ในระบบฐานข้อมูล เพราะหากไม่ดูแลให้เท่าเทียมกัน เท่ากับเป็นการเอาเปรียบผู้ที่ชำระภาษีอย่างถูกต้อง
.
ส่วนการจัดเก็บภาษีกับผู้ขายสินค้าออนไลน์ในประเทศในปีงบประมาณ 2562 กรมฯ ได้ดึงผู้ค้าออนไลน์เข้าสู่ระบบภาษี ด้วยการให้มายื่นแสดงรายได้กับกรมได้แล้วถึง 100,000 ราย และมีการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากับผู้ค้าได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งปีงบประมาณ 2563 กรมฯ ตั้งเป้าจะดึงผู้ค้าออนไลน์เข้าสู่ระบบภาษีให้เพิ่มขึ้นเป็น 170,000 ราย โดยเชื่อว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีจากผู้ค้าออนไลน์ได้มากกว่า 1,000 ล้านบาทแน่นอน