นายกฯ ย้ำ! ไม่ล็อกดาวน์-ไม่เคอร์ฟิว ด้านศบค.ขอความร่วมมือ 18 จังหวัด งดออกนอกบ้าน 5 ทุ่ม-ตี 4

693
0
Share:

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม แถลงว่า โควิดแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เราต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วด้วย เพื่อลดความเสียหายให้ได้เร็วที่สุด เหมือนกรณีของจ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เราต้องร่วมมือกัน เราดูจากต่างประเทศเขาไม่ต้องการล๊อกดาวน์ หรือแม้กระทั่งใส่หน้ากาก จนทำให้มีการติดเชื้อจำนวนมากก็ไม่อยากให้เปรียบเทียบกับต่างประเทศ เพราะหากมีการระบาดก็จะไม่ปลอดภัย

.

อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีน ไม่ใช่การทำให้ไม่ติดเชื้อ แต่จะทำให้โอกาสติดเชื้อน้อยลง ซึ่งเราก็ต้องทำอย่างนี้ ตรงนี้รัฐบาลก็อยากจะฉีดวัคซีนให้ได้จำนวนมาก ซึ่งการสั่งซื้อวัคซีนยังต้องซื้อขายผ่านรัฐบาล เพราะถือว่าเป็นกรณีฉุกเฉินอยู่ โดยการจัดหาวัคซีนได้ติดต่อไปทางรัสเซียและสหรัฐอเมริกา เพื่อขอจัดซื้อวัคซีนได้มากขึ้น สำหรับการฉีดวัคซีนต้องฉีดให้ครบทุกกลุ่ม กำหนดขนาดวงการฉีด โดยจะฉีดให้ได้ 60 เปอร์เซ็นต์ ภายในปีนี้ และตอนนี้ได้ฉีดให้ ส.ส. เพราะต้องลงไปพบประชาชน ตนไม่ต้องการให้มีใครตายสักคน เพราะตนก็เสียใจ คนในครอบครัวก็เสียใจ

.
แนวทางการแก้ปัญหาผมฟังจากทุกหน่วยงาน ซึ่งทุกคนประเมินสถานการณ์กันทุกวัน พวกเราเจ็บปวดไปด้วยกัน สถานการณ์ของเราไม่เท่ากับต่างประเทศ เพราะเรามีวินัย เมื่อไร่ที่เราไม่มีวินัยก็ก้าวไปสู่ความประมาท ผมตำหนิใครไม่ได้ เพราะทุกคนคือคนไทย วันนี้คน 90 เปอร์เซ็นต์ใส่หน้ากาก แต่มาตรการเว้นระยะห่าง ผมยังเป็นห่วงอยู่ วันนี้หากการ์ดตก มีคนออกมาชุมนุม ผมก็ไม่ได้ห้าม แต่อาจจะนำไปสู่การติดเชื้อ

.
ขอเตือนให้ทุกคนอย่างประพฤติตนอยู่ในความประมาท คนไทยเราเคยทำสำหรับมาตั้งแต่ระยะหนึ่งแล้ว เมื่อไหร่ที่เรารวมกันเป็นหนึ่ง ทุกอย่างเราช่วยกันได้หมด ขอฝากในสิ่งที่ท่านทำดีอยู่แล้ว ให้ทำดีมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยเราต้องชนะ เมื่อถึงยามขับขันประชาชนต้องการผู้กล้าหาญ คนทำงานไม่มัวพูดพร่ำ ยามเกิดปัญหาก็ต้องการบัญทิต สิ่งเหล่านี้คือหลักชัยที่เราต้องนำมาใช้ในระยะนี้

.

สิ่งสำคัญคือตอนนี้ยังไม่มีการเคอร์ฟิว ยังไม่ล็อกดาวน์ อาจจะมีการกำหนดเวลาบ้าง เราจะทุ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลตรงนี้อีก หากตำรวจติดเชื้อมาอีกก็จะมีปัญหา วันนี้มีคนมาปลุกปั่นก็ขอให้ประชาชนอย่าไปเชื่อ เราไม่ต้องการคนมาทำลาย บั่นทำลายกันอีกไม่ได้ ส่วนผมเกลียดคนไม่ได้ ผมไม่ทำ ผมอโหสิให้ทุกคน

.

ทางด้านนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. ได้แถลงมาตรการยกระดับการควบคุมโรคโควิด-19 และปรับโซนสีของพื้นที่ เป็นระยะเวลา 14 วัน นับตั้งแต่ข้อกำหนดประกาศในราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้ หรือ ตั้งแต่เวลา 00.00 น.ของวันที่ 18 เมษายน 2564 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2564

.

โดยได้แบ่งออกเป็น โซนสีแดง หรือ พื้นที่ควบคุมสูงสุด จำนวน 18 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง และขอนแก่น และโซนสีส้ม หรือ พื้นที่ควบคุมขั้นสูง จำนวน 59 จังหวัดที่เหลือ

.

ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่โซนสีแดง 18 จังหวัด ห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 23.00 น. จนถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น และให้ลดการเดินทาง หรือ เดินทางเท่าที่จำเป็น ทางด้านห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารปิดให้บริการเร็วขึ้น ส่วนร้านสะดวกซื้อให้ปิดในเวลาไม่เกิน 23.00 น. สำหรับมาตรการยกระดับควบคุมโรคโควิด -19 ในช่วง 14 วัน ศบค.เห็นชอบและประกาศข้อกำหนดในราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้ เช่น

1.ปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ อาบอบนวด ทุกจังหวัด

2.ร้านอาหาร นั่งรับประทานในร้านได้ งดจำหน่ายและงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจังหวัดพื้นที่โซนสีแดง 18 จังหวัด เปิดไม่เกินเวลา 21.00 น. และจังหวัดพื้นที่โซนสีส้ม 59 จังหวัดที่เหลือเปิดไม่เกิน 23.00 น.

3. ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดให้บริการตามปกติ *ยกเว้นสวนสนุก เครื่องเล่น (จำกัดจำนวนคน งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย)

4. สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา งดการเรียนการสอนในห้องเรียน

5. สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ยิม ฟิตเนส เปิดให้บริการปกติ แข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชม/ผู้เล่น

.

โดยให้ทุกจังหวัดห้ามจัดกิจกรรมที่มีคนรวมกลุ่มกันเกิน 50 คน และ ห้ามจัดกิจกรรมงานเลี้ยง สังสรรค์ ยกเว้นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน

.

นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชน Work from Home ให้มากที่สุด และปฏิบัติตามมาตรการองค์กร DMHTT คือ การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย 100% ล้างมือบ่อยๆ ตรวจวัดอุณหภูมิ และสแกนไทยชนะและหมอชนะ แยกกันรับประทานอาหาร สำหรับผู้ที่เดินทางไปต่างจังหวัด ขอความร่วมมือ Work from Home เพื่อสังเกตอาการระยะเวลา 14 วัน

.