“นายกฯ เศรษฐา” แบ่งงาน รับคุมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ

233
0
Share:
"นายกฯ เศรษฐา " แบ่งงาน รับคุมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการ นโยบาย รัฐวิสาหกิจ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามเรื่องการมอบอำนาจให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้การบริหารราชการของกระทรวงการคลังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำกับดูแล กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักในการคิดนโยบายสาธารณะ และดูแลรัฐวิสาหกิจ และได้มอบหมายให้นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีอำนาจในการสั่งการ กำกับดูแล และการปฏิบัติราชการหรือดำเนินการอื่นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แก่ งานส่วนราชการ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพสามิต สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย

ขณะที่เรื่องที่เป็นราชการอันเกี่ยวกับงานของรัฐวิสาหกิจในสังกัด ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม องค์การสุรา การยาสูบแห่งประเทศไทย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีอำนาจในการสั่งการ ส่วนงานราชการ ได้แก่ กรมสรรพากร กรมธนารักษ์ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

ขณะที่เรื่องที่เป็นราชการอันเกี่ยวกับงานของรัฐวิสาหกิจในสังกัด ได้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย บริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด

ทั้งนี้ การมอบหมายงานดังกล่าวไม่รวมถึงการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังถือหุ้น งานที่เป็นเรื่องนโยบาย เรื่องที่ต้องเสนอนายกรัฐมนตรีหรือคณะและเรื่องที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสั่งเป็นอย่างอื่น

นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ให้กับประชาชนที่จะเป็นจุดเริ่มต้น และจะพยายามทำให้ได้เร็วที่สุด โดยบางนโยบายคาดว่าจะออกมาได้ภายในไตรมาส 1/67 หรือในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เป็นอย่างช้า ซึ่งการทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือระยะสั้น แต่มีความจำเป็นที่บางนโยบายต้องทำและต้องดำเนินการโดยเร็ว

สำหรับวินัยการเงินการคลังนั้น ได้มีโอกาสพบกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งได้ให้ข้อควรระวังมา ซึ่งตนก็รับทราบและเห็นด้วยในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นมาตรการพักหนี้เกษตรกร ซึ่งความตั้งใจของมาตรการพักหนี้เป็นการฟื้นฟูจิตใจระยะสั้น รัฐบาลต้องมีวิธีการเพิ่มรายได้อย่างถาวร โดยไม่ใช้โครงการประชานิยม เช่น ประกัน จำนำ ที่ไปบิดเบือนราคาตลาด

ส่วนกรณีหลายมาตรการที่เตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจ มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ชอบและไม่ชอบนั้น เช่น นโยบายการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 ครั้ง นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพราะยิ่งรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลายนโยบายย่อมเป็นที่เพ่งเล็งของสาธารณชน