นายธนาคารรัสเซียฟันธง อีกหลายสิบปี เศรษฐกิจรัสเซียถึงจะฟื้นกลับมา

นายเจอรมัน เกร็ฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ธนาคารสเบอร์แบงก์ (Sberbank) ซึ่งเป็นธนาคารสัญชาติรัสเซีย และเป็นธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย กล่าวว่า เศรษฐกิจประเทศรัสเซียต้องใช้เวลานานหลายสิบปีที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นคืนกลับมาเหมือนช่วงก่อนรัสเซียเปิดฉากทำสงครามกับยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา

สาเหตุจากผลกระทบอย่างรุนแรงจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รุนแรงของกลุ่มประเทศโลกตะวันตกขนาดใหญ่ของโลก ทำให้รัสเซียถูกปิดกั้น และหลุดออกจากวงจรเศรษฐกิจการค้า สินทรัพย์ในประเทศรัสเซียได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจ และมาตรการคว่ำบาตรยึดทรัพย์สิน ราคาสินค้าในรัสเซียมีราคาพุ่งสูงมากขึ้น

ซีอีโอ ธนาคารสเบอร์แบงก์ (Sberbank) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจรัสเซีย กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้ ภาคส่งออก และนำเข้าของรัสเซียจะดำดิ่งหนักมากถึง -56% และ -51% ตามลำดับ ซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจจากนานาชาติ นั่นหมายความว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีรัสเซียปี 2565 จะดำดิ่งมากถึง -15% ในขณะนี้ พบว่า การส่งออกตู้สินค้าของรัสเซียตกต่ำมากถึง 6 เท่า สาเหตุจากเส้นทางขนส่งสินค้าทั้งทางทะเล และทางอากาศ ถูกปิดกั้นจากมาตรการคว่ำบาตรเส้นทางคมนาคมขนส่งสินค้าในทวีปยุโรป

อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจรัสเซียในปัจจุบันยังอยู่ในสถานะดีกว่าที่คาดเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลจากรัฐบาลรัสเซียพยายามหาช่องทางในการส่งออกสินค้าพลังงาน ได้แก่ น้ำมันดิบ ไปยังตลาดอื่นๆ เช่น เอเชียกลาง เอเชียใต้ และแอฟริกา โดยอาศัยอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่มีราคาสูง แต่เมื่อทำการซื้อขายจริง ราคาน้ำมันดิบจากรัสเซียจะถูกต่อรองและมีราคาถูกกว่าตลาดโลก

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา เอลลิน่า ริบาโควา รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ สถาบันการเงินระหว่างประเทศ หรือ IIF กล่าวว่า เป็นสมาคมหรือการค้ากลุ่มอุตสาหกรรมบริการทางการเงินระดับโลก สังกัดธนาคารโลก เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจรัสเซียจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2565 ตกต่ำอย่างรุนแรงถึง -15%

ทั้งนี้ ธนาคารสเบอร์แบงก์ (Sberbank) เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีปริมาณเงินฝากของประชาชนชาวรัสเซียมากที่สุด รวมถึงเป็นธนาคารที่มีปริมาณการปล่อยสินเชื่อสูงสุดในประเทศรัสเซียด้วย