นิวไฮอีก! ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกวันที่ 6 ติดต่อกัน ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 150 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 37,248 จุด +158 จุด หรือ +0.47% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,719 จุด +12 จุด หรือ +0.26% และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 14,761 จุด +27 จุด หรือ +0.19% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทำสถิติสูงสุดเหนือ 37,000 จุดวันที่ 2 ต่อเนื่อง และครั้งประวัติการณ์รอบใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ดัชนีหุ้นดังกล่าวมีจุดสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 37,084.85 จุด เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2022 หรือในรอบ 11 เดือนผ่านมา

เช่นเดียวกันกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ขึ้นทำสถิติสูงสุดเหนือ 4,700 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือนผ่านมา ระหว่างวันในรอบ 1 ปี 11 เดือน หรือตั้งแต่มกราคม ปี 2022 ขณะนี้ ยังเหลืออีก 1.9% ที่จะทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ซึ่งเดิมมีสถิติอยู่ที่ 4,796.56 จุด และเหลืออีก 2.4% ที่จะทำสถิติดัชนีสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ซึ่งเดิมมีสถิติอยู่ที่ 4,818.62 จุด

สอดรับกับ ดัชนีหุ้นนาสแดคปิดสูงสุดในรอบ 1 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่เมษายน ปี 2022 ขณะนี้ ยังเหลืออีก 9% ที่จะทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ และเหลืออีก 10% ที่จะทำสถิติดัชนีสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐยังปิดขึ้นแดนบวกเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน

ในสัปดาห์นี้ที่ใกล้จะจบลงนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.3%, +2.2% และ +2.3% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 และนาสแดค จะปิดแดนบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์จะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบ 4 ปี 10 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 2019 ซึ่งในเวลานั้น ปิดต่อเนื่องยาวนานถึง 9 สัปดาห์ เช่นเดียวกันกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 จะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบ 6 ปี 1 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน ปี 2017 และดัชนีหุ้นนาสแดค จะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบ 6 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน ปี 2023

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน สอดรับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ลดต่ำลงกว่าระดับ 4% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หรือตั้งแต่สิงหาคมผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนมั่นใจเต็มที่ว่าสิ้นสุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดอย่างชัดเจนแล้ว หลังจากการกล่าวของประธานเฟดภายหลังสิ้นสุดการประชุมมีมติตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องในคืนผ่านมา นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณว่าการลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า 2024

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า มีโอกาสอยู่ที่ 72% จากเดิมที่ 65% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งแรก 0.25% ในเดือนมีนาคมปี 2024