นิวไฮอีก! ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกวันที่ 8 ติดต่อกัน ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮวันที่ 4 ต่อเนื่อง

124
0
Share:
ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 37,306 จุด +0.86 จุด หรือ +0.00% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,740 จุด +21 จุด หรือ +0.45% และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 14,904 จุด +90 จุด หรือ +0.61% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทำสถิติสูงสุดเหนือ 37,000 จุดวันที่ 4 ต่อเนื่อง และครั้งประวัติการณ์รอบใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ดัชนีหุ้นดังกล่าวมีจุดสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 37,084.85 จุด เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2022 หรือในรอบ 1 ปี 11 เดือนผ่านมา
เช่นเดียวกันกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ขึ้นทำสถิติสูงสุดเหนือ 4,700 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 11 เดือน หรือตั้งแต่มกราคม ปี 2022 ขณะนี้ ยังเหลืออีก 1.2% ที่จะทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ซึ่งเดิมมีสถิติอยู่ที่ 4,796.56 จุด และเหลืออีก 2% ที่จะทำสถิติดัชนีสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ซึ่งเดิมมีสถิติอยู่ที่ 4,818.62 จุด
สอดรับกับ ดัชนีหุ้นนาสแดคปิดสูงสุดในรอบ 1 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่เมษายน ปี 2022 ขณะนี้ ยังเหลืออีก 9% ที่จะทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ และเหลืออีก 10% ที่จะทำสถิติดัชนีสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐยังปิดขึ้นแดนบวกเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน และในเดือนธันวาคมนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสูงขึ้น +3.8%, +3.8% และ +4.8%
ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.9%, +2.6% และ +2.9% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 และนาสแดค จะปิดแดนบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์จะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบ 4 ปี 10 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 2019 ซึ่งในเวลานั้น ปิดต่อเนื่องยาวนานถึง 9 สัปดาห์ เช่นเดียวกันกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 จะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบ 6 ปี 1 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน ปี 2017 และดัชนีหุ้นนาสแดค จะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบ 6 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน ปี 2023
สาเหตุจากถึงแม้ว่าผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ สาขานิวยอร์ก นายจอห์น วิลเลียม กล่าวว่า ในความเป็นจริง เฟดยังไม่ได้พิจารณาถึงการลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นแต่อย่างใด ท่ามกลางการตีความวิเคราะห์ในตลาดเข้าใจกันว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยดังกล่าวถึง 3 ครั้งในปี 2024 แต่นักลงทุนยังมั่นใจว่าสิ้นสุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด หลังจากการกล่าวของประธานเฟดภายหลังสิ้นสุดการประชุมมีมติตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมผ่านไป นอกจากนี้ ตลาดยังมองว่าเฟดยังส่งสัญญาณว่าการลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า 2024
ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า มีโอกาสอยู่ที่ 72% จากเดิมที่ 65% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งแรก 0.25% ในเดือนมีนาคมปี 2024