น้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งเกิน 123 ดอลลาร์ แพงสุดรอบ 13 เดือน

330
0
Share:

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อคืนที่ผ่านมา 8 มิถุนายน 2565 รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 122.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.3% มีราคาปิดสูงสุดในรอบ 3 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมผ่านมา ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 123.34 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.3% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 3 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมผ่านมา ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินในสหรัฐอเมริกาสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน เมื่อมีปริมาณลดต่ำลง 8 แสนบาร์เรลจากที่คาดว่าจะต้องเพิ่มถึง 1.1 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ท่ามกลางราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินไร้สารมีราคาพุ่งขึ้นแตะแกลลอนละ 4.95 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์แต่ปริมาณน้ำมันเบนซินในสหรัฐอเมริกากลับลดลง พนักงานในโรงกลั่นน้ำมันดิบที่ประเทศนอร์เวย์ประกาศผละงานประท้วงในวันที่ 12 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ธนาคารชั้นนำ 3 แห่ง ในสหรัฐอเมริกา ประกาศปรับเป้าหมายราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในปีนี้ และปี 2566 เพิ่มขึ้นตากการคาดการณ์เดิม ได้แก่ ธนาคารโกลด์แมนแซคส์ เปิดเผยว่า ได้ปรับเป้าหมายราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเฉลี่ยในช่วงที่เหลืออีก 12 เดือนจากนี้ไป หรือตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้จนถึงกลางปี 2566 โดยเพิ่มขึ้นอีก 10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 135 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ธนาคารบาร์เคลย์ส เปิดเผยว่า สำหรับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือตลอดทั้งปี 2565 จะมีราคาขึ้นมาอยู่ที่ 111 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้น 11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในขณะที่ตลอดทั้งปี 2566 ได้ปรับราคาเฉลี่ยทั้งปีมาอยู่ที่ 111 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 23 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ด้านราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้ปรับราคาเฉลี่ยทั้งปีนี้ และปี 2566 มาอยู่ที่ 108 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ธนาคารซิตี้ กรุ๊ป เปิดเผยว่า สำหรับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ปรับราคาขึ้นอีก 14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้มีราคาขึ้นมาอยู่ที่ 113 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ปรับขึ้นอีก 12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้มีราคาขึ้นมาอยู่ที่ 99 จากเดิม 87 และ 85 จากเดิม 73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ ในขณะที่ตลอดทั้งปี 2566 ได้ปรับราคาเฉลี่ยทั้งปีมาอยู่ที่ 75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 16 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล