น้ำมันดิบตลาดโลกในเอเชียพุ่งกว่า 4 ดอลลาร์ ลุ้นพุธนี้โอเปกพลัสลดผลิตน้ำมันดิบ

238
0
Share:
น้ำมันดิบ ตลาดโลกในเอเชียพุ่งกว่า 4 ดอลลาร์ ลุ้นพุธนี้โอเปกพลัสลดผลิตน้ำมันดิบ

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า สิงคโปร์ เอเชีย รายงานว่า วันนี้ 3 ตุลาคม 2565 เวลา 16.10 น. ตามเวลาสิงคโปร์ หรือตรงกับเวลา 15.10 น. เวลาไทย พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ เคลื่อนไหวที่ 83.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล 3.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +4.48% สอดคล้องกับ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ เคลื่อนไหวที่ 88.80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +3.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +4.30%

สาเหตุจาก กลุ่มโอเปกพลัสเตรียมประชุมมติตัดลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยตัวแทนผู้เข้าร่วมประชุมที่เดินทางถึงกรุงเวียนนา เปิดเผยว่า กลุ่มโอเปกจะพิจารณาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

สาเหตุจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาและอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ทำสถิติแข็งค่าในรอบ 20 ปีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการปรับเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และธนาคารกลางทั่วโลก

ด้านธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกพลัสที่มีทั้ง 23 ประเทศ อาจลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงวันละ 500,000 บาร์เรล

เมื่อวันศุกร์ที่ 30 กันยายนผ่านมา ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ตามเวลานิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 79.49 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.1% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 87.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.6% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 ปรับเพิ่มขึ้น +1% และ +2% ตามลำดับ ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน หรือนับตั้งแต่สิงหาคมผ่านมา ในแง่รายไตรมาส พบว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ดำดิ่งมากถึง -25% และ -23% ตามลำดับ