น้ำมันดิบเอเชียพุ่งเกือบ 5 ดอลล์ ดันราคาเหนือ 102 ดอลล์ เตือนวิกฤตซัพพลายน้ำมันดิบ

416
0
Share:

วันนี้ 17 มีนาคม 2565 เวลา 17.30 น. ตามเวลาไทย ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าในเอเชีย รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ เคลื่อนไหวที่ 99.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +4.37 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +4.59% สอดคล้องกับ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ เคลื่อนไหวที่ 102.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +4.86 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +4.96%

สาเหตุที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกกลับมาทะยานสูงขึ้นครั้งใหม่ เป็นผลจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA เปิดเผยรายงานพลังงานโลกประจำสัปดาห์ พบว่า ทั่วโลกจะเผชิญวิกฤตปริมาณน้ำมันดิบตลาดโลกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ สาเหตุจากรัสเซียจะพบปัญหาในการผลิตน้ำมันดิบปริมาณ 3 ล้านบาร์เรลต่อวันนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติทั่วโลกที่ตอบโต้ต่อการการทำสงครามของรัสเซียในประเทศยูเครน

IEA เปิดเผยต่อไปว่า การผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียจะเจอกับภาวะสะดุดครั้งใหญ่ ทำให้กลายเป็นปัจจัยคุกคามที่จะทำให้เกิดภาวะช็อคของแหล่งผลิตน้ำมันของโลก หรือ Global Oil Supply Shock ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงหลายสิบปีผ่านมา นั่นหมายความว่า ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการที่รัสเซียต้องสูญเสียการผลิตน้ำมันดิบป้อนตลาดโลกจะเป็นสิ่งที่ประเมินผลกระทบต่ำกว่าความเป็นจริงไม่ได้

ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา 16 มีนาคม 2565 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 95.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -1.45% ก่อนหน้านี้ ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านไป มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 97.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.35 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.35% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนตั้งความหวังกับการเจรจาและสถานการณ์รุนแรงระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่ ปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกากลับมาเพิ่มขึ้นเหนือคาดหมายถึง 4.3 ล้านบาร์เรล