บอร์ดอีอีซีย้ำรถไฟช่วงแรก พญาไท-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เปิดไม่เกินต้นปี 2567

849
0
Share:

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวัน หรือ บอร์ดอีอีซี เปิดเผยว่า ที่ประชุมรับทราบแผนเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟความความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ตามที่คณะอนุกรรมการบริหารที่มีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานเสนอ
.
โดยแผนการส่งมอบพื้นที่แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 สถานีพญาไท – สุวรรณภูมิ ระยะทาง 28 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่แอร์พอร์ตลิงค์เดิม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ทันทีหลังจากที่มีการลงนาม
.
ระยะที่ 2 สถานีสุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา ระยะทาง 170 กิโลเมตร จะเร่งรัดส่งมอบพื้นที่ภายใน 1 ปี 3 เดือน แต่สามารถขยายเวลาได้ไม่เกิน 2 ปีหลังลงนามในสัญญา
.
ระยะที่ 3 สถานีพญาไท – ดอนเมือง ระยะทาง 22 กิโลเมตร จะเร่งรัดส่งมอบพื้นที่ภายใน 2 ปี 3 เดือน หรือไม่เกิน 4 ปีหลังลงนาม
.
ทั้งนี้หากดำเนินการเป็นไปตามแผนที่วางไว้ รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เฉพาะสถานีพญาไท-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา จะสามารถเปิดให้บริการได้เร็วที่สุดช่วงปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567 ส่วนสถานีพญาไท-ดอนเมือง ที่มีการรื้อย้ายปรับปรุงสาธารณูปโภคจำนวนมาก คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วง 2567-2568
.
อย่างไรก็ตามหากการดำเนินการไม่เป็นไปตามแผนเร่งรัดดังกล่าว ก็ยังสามารถขยายเวลาต่อไปได้ โดยไม่มีการกำหนดให้ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับภาคเอกชน แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องในภายหลัง ส่วนตัวเชื่อว่าภาคเอกชนที่มาประมูลงานก็ได้อ่านเงื่อนไขตามทีโออาร์ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าได้มีการบวกความเสี่ยงต่างๆ ลงไปในต้นทุนสุทธิก่อนที่จะกำหนดราคาประมูล ดังนั้นภาคเอกชนย่อมรู้อยู่แล้วว่าต้องมีความเสี่ยงอะไรบ้าง
.
ขณะที่นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศ กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจที่จะต้องรับผิดชอบโครงการ ตราบใดที่โครงการยังเป็นไปตามเงื่อนไขการร่างข้อเสนอ หรือ RFP รวมถึงมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะมีการลงนามในสัญญาร่วมกับภาคเอกชนอย่างแน่นอนในวันที่ 25 ตุลาคมนี้
.
แต่หากไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามกรอบระยะเวลาที่มีการเร่งรัดใหม่ และ รฟท.ทำอะไรไม่ได้เลย ก็คงต้องยกเลิกโครงการ เพราะเท่ากับว่าเราไม่ได้ทำงาน แต่ที่ผ่านมาเรามีแผนปฏิบัติงานมาตลอด จึงขอเวลาทำงานก่อน และเชื่อว่าคนที่ประมูลงานมาก็อยากทำงานเช่นกัน ดังนั้นคงไม่มีใครอยากประมูลงานเพื่อมายกเลิกสัญญาในภายหลัง