กรุงไทยคาดยอดขายรถยนต์ปีนี้หดตัว 38.2% จากพิษโควิด 19

556
0
Share:

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ของไทยในปี 2563 ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มหดตัวรุนแรง (Deep Recession) ที่ 9.1% และฉุดกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างมาก โดยยอดขายรถยนต์ในประเทศในครึ่งแรกของปี 2563 อยู่ที่เพียง 330,000 คัน หดตัว 37.5%
.
ประเมินว่ายอดขายทั้งปี จะอยู่ที่ 620,000 คัน หรือหดตัวถึง 38.2% ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจตัวแทนจัดจำหน่ายรถยนต์มือหนึ่ง (ดีลเลอร์) ที่พึ่งพารายได้ส่วนใหญ่เกือบ 85% มาจากการขายรถยนต์
.
รายได้ของธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ในภาพรวม มีแนวโน้มลดลง 25% เทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ต้นทุนและค่าใช้จ่ายทั้งหมดของดีลเลอร์ไม่สามารถปรับลงได้เท่ากับรายได้ที่หายไป ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ของผู้ประกอบการมีแนวโน้มแย่ลง จากกำไรที่ 1-1.2% ในช่วงปี 2560-2562 เป็นติดลบ 4.8% ในปี 2563
.
นอกจากนี้ คาดว่าสัดส่วนของผู้ประกอบการที่มีกำไรสุทธิติดลบ จะเพิ่มขึ้นจาก 24% ในปีที่ผ่านมา เป็น 36% ในปีนี้ โดยกว่าสถานการณ์ยอดขายรถยนต์ในประเทศจะกลับมาอยู่ในช่วงก่อนวิกฤติโควิด-19 หรือที่ประมาณ 1 ล้านคัน จะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี”
.
ดร.มานะ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการฝ่าย ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวอย่างรุนแรงที่เข้ามาฉุดกำลังซื้อของผู้บริโภคแล้ว ธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจแบบดั้งเดิม (Brick and Mortar) กำลังเผชิญกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยคาดการณ์ได้ว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเข้าไปยังโชว์รูมน้อยลง การปิดการขายจึงจะยากขึ้นกว่าเดิม
.
ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทายธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์เป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการควรรักษาฐานลูกค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง ทำการตลาดเชิงรุกเพื่อรอรับกับ Pent Up Demand ที่อาจกลับมาหลังการแพร่ระบาดคลี่คลาย รวมทั้งนำกลยุทธ์ของดีลเลอร์ในต่างประเทศมาประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะการยกระดับการขายและบริการเข้าสู่ระบบดิจิทัล (Digitalize) ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในระยะยาว