บอร์ดอีอีซีเคาะกลุ่มบีบีเอสเป็นผู้ชนะโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา – เมืองการบินภาคตะวันออก เสนอครม.2 มิ.ย.นี้

842
0
Share:

คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือบอร์ดอีอีซี ซึ่งมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการ กพอ. เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส (BBS Joint Venture) หรือ กลุ่มบีบีเอส เป็นผู้ชนะโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก
.
โดยเตรียมเสนอครม.พิจารณาวันที่ 2 มิ.ย.นี้ จากนั้นจะมีการลงนามกับ กลุ่มบีบีเอส ได้ไม่เกินกลางเดือนมิ.ย.นี้
.
นอกจากนี้เพื่อผลประโยชน์ร่วมของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน ภาคตะวันออก และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการร่วมประสานงาน โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เพื่อให้มีการทำงานอย่างบูรณาการเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดเชื่อมโยงแผนงานการก่อสร้าง และแผนการเปิดบริการให้สอดคล้องหรือพร้อมกันได้
.
กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส เป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกโดยได้เสนอราคาเป็นจำนวนเงินประกันผลตอบแทนค่าเช่าและส่วนแบ่งรายได้ขั้นต่ำรายปีรวมตลอดอายุสัญญาร่วมทุน เมื่อคำนวณเป็นมูลค่าปัจจุบัน (Present Value) ณ ปี 2561 โดยใช้อัตราคิดลดร้อยละ 3.76 เท่ากับ 305,555,184,968 บาท ตลอดอายุสัญญา 50 ปี
.
โดยการลงทุนพัฒนา “เมืองการบินภาคตะวันออก” ในพื้นที่ 6,500 ไร่ บริเวณสนามบินอู่ตะเภา โดยมี 6 กิจกรรมสำคัญ การลงทุนของโครงการรวมเป็นเงินลงทุนรวมประมาณ 290,000 ล้านบาท (จากการศึกษาความเหมาะสมโครงการฯ) และจากการมีมติให้กลุ่มบีบีเอส ชนะประมูลเมืองการบินอู่ตะเภา รัฐได้ประโยชน์เพิ่มเติม ได้แก่ 1.ด้านการเงิน (ค่าเช่าที่ดิน ส่วนแบ่งรายได้) มูลค่าปัจจุบัน 305,555 ล้านบาท (เป็นเงินรวม 1,326,000 ล้านบาท ใน 50 ปี) 2.ได้ภาษีอากรเพิ่ม มากกว่า 62,000 ล้านบาท (ไม่นับรวมรายได้ภาษีทางอ้อมกับธุรกิจเชื่อมโยงนอกเมืองการบินภาคตะวันออก) 3. เกิดการจ้างงานเพิ่ม 15,600 ตำแหน่งต่อปี ในระยะ 5 ปีแรก 4.เพิ่มเทคโนโลยี และพัฒนาทักษะแรงงานด้านธุรกิจการบิน และธุรกิจเชื่อมโยง 5. สิ้นสุดสัญญาทรัพย์สินทั้งหมด ตกเป็นของรัฐ