บันยันกรุ๊ปทุ่มกว่า 70,000 ล้าน ขึ้นโครงการอยู่อาศัยหรูหราใหญ่ที่สุดในภูเก็ตถึง 6,000 ห้อง
บันยัน กรุ๊ป (Banyan Group) เครือข่ายยักษ์ใหญ่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังจากประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่า เตรียมงบประมาณลงทุน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 70,200 ล้านบาท เพื่อเข้ามาลงทุนสร้างโครงการที่อยู่อาศัยระดับหรูหราและขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต โดยมีชื่อโครงการว่า ลากูนา เลคแลนด์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะภูเก็ต เมื่อสร้างเสร็จ จะมีจำนวน 6,000 ยูนิต กำหนดราคาขายเฉลี่ยยูนิตละ 325,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11.7 ล้านบาท โดยจะเปิดเป็นที่ละเฟสในช่วง 5-10 ปี ล่าสุด สามารถปิดการขายได้ 20% ของ 300 ยูนิตแรก ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมและบ้านสไตล์วิลล่า
โครงการลากูนา เลคแลนด์ ที่มีมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 70,200 ล้านบาท ถือเป็นแบรนด์โครงการที่ใหม่ล่าสุด และมีขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มบันยัน กรุ๊ป ที่ตั้งของโครงการนี้อยู่ติดกับลากูนา รีสอร์ต ซึ่งเป็นที่พักระดับหรูหราของภูเก็ต จะถูกออกแบบให้มีสวนป่าฝน สวนร่มรื่นพักผ่อน ทะเลสาป เป็นต้น
นายโฮ กวนปิน ผู้ก่อตั้งและประธานบันยัน กรุ๊ป กล่าวว่า ภูเก็ตเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนผ่านตัวเอง ไม่เพียงเป็นแค่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เป็นเมืองที่อยู่อาศัยของคนทั่วโลก ที่เดินทางมาที่นี่เพื่อหาบ้านที่อยู่อาศัย และเป็นสถานที่ทำงานด้วย ราคาที่ดิน หรือทำเลที่ดินที่เป็นหัวใจสำคัญในภูเก็ตมีราคาเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วง 2 ปีผ่านมา สาเหตุจากชาวรัสเซีย ชาวจีน และชาวอังกฤษ กลายเป็นผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต
สจ๊วต รีดดิ้ง กรรมการผู้จัดการ สายการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บันยัน กรุ๊ป กล่าวว่า เจ้าของชาวต่างชาติมีความต้องการเพิ่มสูงมากขึ้นในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ไม่เพียงแค่การลงทุน แต่ยังเป็นการซื้อเพื่อโยกย้ายที่อยู่อาศัยอีกด้วย สำหรับโครงการของบันยัน กรุ๊ป นั้น ผู้ซื้อชาวต่างชาติในเอเชียส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีน สิงคโปร์ และไทย คิดเป็น 50% ของยอดขายทั้งหมด แต่ในภาพรวมแล้ว ลูกค้าชาวรัสเซียจะมีสัดส่วนการซื้อมากที่สุดถึง 35% ของทั้งหมด อันดับ 2 เป็นชาวจีน 15%
ทั้งนี้ บันยัน กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 หรือเมื่อ 30 ปีผ่านมา ได้กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจเครือข่ายโรง รีสอร์ต และที่อยู่อาศัยระดับหรูหรา หรือพรีเมี่ยมของตลาดโลก ที่สำคัญ เป็นแบรนด์ระดับหรูหราในระดับเดียวกับแบรนด์โรงแรมระดับโลก เช่น แมริออท โฟร์ซีซั่น และฮิลตั้น ปัจจุบัน เป็นผู้ให้บริการโรงแรมจำนวนมากถึง 70 แห่ง และที่พักอาศัยระดับหรูหรา หรือเรสซิเดนซ์จำนวน 14 แห่ง กระจายใน 20 ประเทศ
