บางจากชี้ทุ่มซื้อธุรกิจเอสโซ่หนุนประสิทธิภาพโรงกลั่น ต้นทุนให้ผู้บริโภคเข้าถึงพลังงาน

280
0
Share:
บางจาก ชี้ทุ่มซื้อธุรกิจ เอสโซ่ หนุนประสิทธิภาพ โรงกลั่น ต้นทุนให้ผู้บริโภคเข้าถึงพลังงาน

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนด้วยการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 65.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ เอสโซ่จาก ExxonMobil โดยมีมูลค่ากิจการที่ 55,500 ล้านบาทนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงทางพลังงานที่มากขึ้นของบางจากฯ และประเทศไทย เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่เพิ่มความยั่งยืนและเพิ่มการเข้าถึงพลังงานได้ง่ายขึ้น ในราคาที่สมเหตุสมผล

“แม้ว่าเทรนของรถพลังงานไฟฟ้าหรือรถอีวี จะกำลังมาแรง คิดเป็นยอดขายประมาณ 8-9 แสนคันในไทย เฉลี่ย 2-3 หมื่นคันต่อปี แต่บางจากมองว่า สัดส่วนกว่า 90% ยังเป็นรถที่ใช้น้ำมัน หรือคิดเป็นประมาณ 10 ล้านคันในประเทศ คาดว่าในระยุต่อไปด้วยสถานการณ์พลังงานในโลก จะเกิดภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน ดังนั้นการเข้าซื้อเอสโซ่มั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนเรื่องความยั่งยืนด้านพลังงานในประเทศ ขณะเดียวกันก็ยังต้องสร้างความสมดุลกับพลังงานด้านอื่นๆร่วมด้วย” นายชัยวัฒน์ กล่าว

จากการลงทุนครั้งนี้ มีสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องคือโรงกลั่นน้ำมันกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน เครือข่ายคลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศกว่า 700 แห่ง โดยจะทำให้บางจากฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง สามารถดำเนินธุรกิจโรงกลั่นได้ครบวงจรมากขึ้น จัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายขึ้น และได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีการกลั่นที่เสริมกันของโรงกลั่นทั้งสองแห่งโดยจะทำให้บางจากฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง สามารถดำเนินธุรกิจโรงกลั่นได้ครบวงจรมากขึ้น จัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายขึ้น และได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีการกลั่นด้วย

เบื้องต้นจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและมีรายได้ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นระดับ 1,500-2,000 ล้านบาททันที และในสัญญาที่ตกลงกันกับ เอ็กซอนโมบิลจะยังคงเก็บแบรนด์ไว้ เช่น น้ำมันเครื่อง เคมีภัณฑ์ต่าง ๆ ส่วนบางจากฯ จะได้สินทรัพย์ทั้งหมดของเอสโซ่ อาทิ สถานีบริการน้ำมันกว่า 700 สถานี โดยจะแปลงเป็นชื่อสถานีบริการน้ำมันบางจากภายใน 2 ปี รวมถึงเงื่อนไขการจ้างงานหรือคู่ค้าเดิมของเอสโซ่ภายใต้สัญญาเดิมจะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าจะหมด

“การซื้อกิจการนี้อยู่ในแผนของบางจาก ที่ตั้งเป้าไว้ว่าต้องการจะมีโรงกลั่นที่ 2 ซึ่งการเข้าซื้อกิจการของเอสโซ๋นอกจากจะได้โรงกลั่นที่2 โดยไม่ต้องสร้างใหม่ ทำให้ลดต้นทุนได้มากและสามารถใช้งานได้เลย ซึ่งดีลนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของงแผนด้วย อีกทั้งช่วยให้บางจากมีสถานีบริการน้ำมันครอบคลุมมากขึ้น เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคโดยเฉพาะในต่างจังหวัด เสริมความมั่นคงทาวพลังงานให้มาอยู่ในมือของคนไทยช่วยให้คนไทยเข้าถึงน้ำมันบางจากได้ง่ายและราคาสมเหตุสมผล สุดท้ายคือดีต่อบางจากที่เสริมความมั่นคงมากขึ้น ไม่ได้ขึ้นกับโรงกลั่นโรงเดียว และสามารถต่อยอดกระแสเงินสดได้มากขึ้นด้วย” นายชัยวัฒน์ กล่าว

สำหรับการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว เป็นการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 65.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ เอสโซ่จาก ExxonMobil โดยมีมูลค่ากิจการ 55,500 ล้านบาท และมีกลไกการปรับราคาซื้อขายหุ้นตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้น ทั้งนี้ หากอ้างอิงตามงบการเงินสอบทานในไตรมาส 3/2565 ของเอสโซ่ จะได้ราคาเบื้องต้นประมาณ 8.84 บาทต่อ 1 หุ้น โดยราคาสุดท้ายจะมีการปรับตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ สำหรับแหล่งเงินทุน บางจากฯ จะใช้เงินทุนทั้งแหล่งภายนอกจากสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และจากกระแสเงินสดภายในบริษัทและเตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นจาก ExxonMobil เสร็จสิ้น โดยจะมีการเสนอเรื่องต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ช่วงเดือนเม.ย. และคาดว่าจะดำเนินการซื้อขายแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังของปี 2566