บาทตีลังกาอ่อน! เงินบาทเปิดตลาดพลิกอ่อนค่าลง ตามดอลลาร์แข็งค่า บอนด์ยีลด์ 10 ปีปรับขึ้น

117
0
Share:

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.10 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงหนัก จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.71 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.95-36.15 บาทต่อดอลลาร์ โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่องตามที่เราได้ประเมินไว้ว่า เงินบาทเสี่ยงจะผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซน 36.15 บาทต่อดอลลาร์ หากอ่อนค่าทะลุระดับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในช่วง 35.66-36.10 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่าลง ตามการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทะลุระดับ 4.20% หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด จนทำให้ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า เฟดอาจเริ่มลดดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือนมิถุนายน ซึ่งช้ากว่าที่ตลาดเคยมองไว้ในการประชุมเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม จากการปรับตัวลงแรงของราคาทองคำสู่โซนแนวรับสำคัญ ซึ่งส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะปรับฐานหนัก

แนวโน้มค่าเงินบาทการอ่อนค่าของเงินบาททะลุโซนแนวต้านสำคัญแถว 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้ปิดฉากเทรนด์การแข็งค่าตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนหน้าไปได้ ทำให้ในระยะสั้น เรามีมุมมองว่า เงินบาทเสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าต่อได้ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา เช่น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอลงกว่าคาด ทำให้ตลาดกลับมาเชื่อว่า การลดดอกเบี้ยของเฟดยังเกิดในเดือนพฤษภาคมได้ หรือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของไทยออกมาดีกว่าคาด ลดโอกาสการลดดอกเบี้ยราว 2 ครั้งของธนาคารแห่งประเทศไทย 

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้เงินบาทอ่อนค่าต่อเข้าใกล้โซน 36.15 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งหากโมเมนตัมการอ่อนค่ายังคงไม่อ่อนแรงลง เราคาดว่า เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อทดสอบโซนแนวต้านสำคัญ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง เรามองว่า ระดับการอ่อนค่าดังกล่าว ถือว่าเงินบาทได้อ่อนค่าลงจนถูกมาก (Undervalued) ในเชิง valuation และเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดสามารถทยอย Sell on Rally USDTHB หรือเริ่มสะสมสถานะ Long THB (มองเงินบาทแข็งค่าขึ้นได้)