บาทแข็งโป๊กที่สุด! เงินบาท เปิดวันนี้ แข็งค่ามากสุดในภูมิภาค จากดอลลาร์อ่อน ลุ้นการเมืองเปลี่ยนขั้ว

194
0
Share:

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาท เปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.09 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาด ช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.24 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่าสุดในภูมิภาค มาจากปัจจัยเมืองในประเทศ เนื่องจากตลาดมองว่าโอกาสที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าว ไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี จะได้จัดตั้งรัฐบาลมีน้อยลง ในขณะที่พรรคเพื่อไทย มีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาล มากขึ้น ทั้งนี้ ตลาดมอง ว่านโยบายของเพื่อไทยมีความเป็นมิตรต่อตลาดการเงินมากกว่า ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่า

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.85 – 34.15 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องติดตามปัจจัย การเมืองในประเทศ รอดูการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบ 2 โดยมีประเด็นเรื่องการเสนอชื่อนายพิธา จะถือเป็นญัตติซ้ำหรือไม่ ถ้าไม่ซ้ำ ก็ต้องรอลุ้นผลการโหวตนายกฯ ต่อไป

ด้านนายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 33.96-34.23 บาทต่อดอลลาร์หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังรายงานยอดค้าปลีก(Retail Sales) และยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ล่าสุดออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ตลาดยิ่งคาดหวังว่าเฟดจะใกล้ยุติการขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังถูกกดดันจากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด หลังสถาบันการเงินใหญ่สหรัฐฯ ต่างรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาด 

ขณะที่มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.85-34.15 บาทต่อดอลลาร์  แนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทมีโมเมนตัมการแข็งค่าที่ชัดเจน (มากกว่าที่เราคาดไว้มากทำให้เงินบาทสามารถแข็งค่าหลุดทุกโซนแนวรับที่เราประเมินไว้ อย่างไรก็ดี เราเริ่มเห็นแรงซื้อของบรรดาผู้เล่นในตลาด โดยเฉพาะผู้นำเข้ากลับเข้ามาบ้าง โดยเฉพาะในช่วงโซน 33.90-34.00 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ช่วงดังกล่าวอาจยังพอเป็นแนวรับได้บ้าง แต่หากเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นหลุดโซนดังกล่าว เรามองว่า แนวรับถัดไปก็ไม่น่าจะต่ำกว่าระดับ 33.80 บาทต่อดอลลาร์ และยังต้องติดตามผลการโหวตนายกฯ รอบ 2 ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินบาทเผชิญความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการโหวตได้

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บลซีจีเอสซีไอเอ็มบี (ประเทศไทยกล่าวว่าเงินบาททำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน หลังเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เพราะตลาดเริ่มเปิดรับความเสี่ยง(Risk-on) โดยได้รับข่าวการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟดไปเรียบร้อยแล้ว โดยตลาดยังคงมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐน่าจะเลี่ยงภาวะถดถอยได้ ขณะที่รายได้บริษัทจดทะเบียน(บจ.)  ในสหรัฐยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามระยะสั้น 1-3 เดือน ยังต้องจับตาผลประกอบการ บจในสหรัฐ เป็นหลักว่าจะทำผลงานได้ตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่

โดย แนวโน้มเงินดอลลาร์ยังมีโอกาสแข็งค่าขึ้น ถ้าตลาดเริ่มขายทำกำไรหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมาก ซึ่งจะทำให้เงินบาทกลับมาอ่อนค่า โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงระหว่าง 33.60-35.00 บาทต่อดอลลาร์