ปลัดสธ.แจงเหตุไม่รวมผลตรวจโควิด RT-PCR กับ ATK ชี้หากนำมารวมยอดอาจทับซ้อนกันได้

นพ.เกียริตภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. กล่าวถึงสาเหตุที่ไม่นำตัวเลขผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จากการตรวจ RT-PCR รวมกับ ATK ซึ่งหากรวมกัน วันนี้จะมีผู้ติดเชื้อทะลุ 5 หมื่นราย เนื่องจากการใช้ชุดตรวจทั้ง 2 ชนิด มีระบบการบริหารจัดการรองรับ หากตรวจแล้วนำตัวเลขมาบวกกันก็อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด เนื่องจากคนที่มีผลบวกจาก RT-PCR ก็มักจะมีผลบวกจาก ATK มาแล้ว

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำการสำรวจเชิงรุก ใช้การตรวจ RT-PCR เพื่อยืนยันผล แต่ปัจจุบันคนที่จะมีผลบวก ATK ก็จะมีผลบวก RT-PCR เช่นกัน ดังนั้น จะเอามารวมกันไม่ได้ แต่ก็ดูแลรักษาตามระบบ หากเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องเข้าโรงพยาบาลก็ต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำ การที่มีตัวเลขติดเชื้อรายงานเพราะกลัวว่า จะรักษาไม่ไหว แต่ขณะนี้เรายังรักษาไหว ถึงจะมีคนติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังได้รับการดูแล แต่คนไข้ที่ใส่ท่อหายใจประมาณ 700 กว่าคน ใส่ท่อหายใจอีกประมาณพันคน ต้องโฟกัสตรงนี้ให้มีประสิทธิภาพ ให้อัตราตายต่ำ และดูแลผู้ป่วยหนักให้ดี ส่วนที่ป่วยไม่หนักก็ดูแลตามระบบรักษาไม่ให้ป่วยหนัก

ดังนั้นที่เราเข้าสู่โอไมครอน การรายงานผู้ติดเชื้อไม่ได้มีผลดีที่จะสามารถควบคุมโรคได้ แต่หากกลัวการระบาด ก็จะรายงานในจังหวัดที่ระบาดสูง เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะเลี่ยงไปในพื้นที่นั้นๆ นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

สำหรับการตรวจ ATK เป็นบวก มีระบบจัดการได้ เพื่อใช้บริการในระบบรักษาที่บ้านและชุมชน (Home and Community Isolation) ยกเว้นกลุ่มที่มีความเสี่ยง คือกลุ่ม 608 ที่ต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเข้ารพ. ขณะที่ค่าใช้จ่ายชุดตรวจ ATK ประมาณ 40-50 บาท ส่วน RT-PCR ครั้งละ 1,000 บาท แต่ความแม่นยำใกล้กัน จึงไม่จำเป็นต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำ