เอกชน ชี้ขึ้นค่าไฟมีแต่ซ้ำเติม กระทบหลายทอด ดันเงินเฟ้อจ่อพุ่ง 6.3% สูงต่อเนื่อง

261
0
Share:
เอกชน ชี้ขึ้น ค่าไฟ มีแต่ซ้ำเติม กระทบหลายทอด ดัน เงินเฟ้อ จ่อพุ่ง 6.3% สูงต่อเนื่อง

จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีแนวทางปรับขึ้นค่าไฟฟ้า 3 ทางเลือก ในงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2566 จากปัจจุบันค่าไฟที่เรียกเก็บอยู่ที่ประมาณ 4.72 บาทต่อหน่วย เป็น 5.37-6.03 บาทต่อหน่วย

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า ค่าไฟถือเป็นต้นทุนหลักๆ ของภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิต และธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ห้างร้านขนาดใหญ่ ซึ่งหากได้ข้อสรุปและมีการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (ค่าเอฟที) จะเป็นการซ้ำเติมภาคธุรกิจอย่างยิ่ง เนื่องจากในปี 2566 ตั้งแต่ต้นปี ผู้ประกอบการต้องปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำให้กับแรงงาน ค่าน้ำมัน วัตถุดิบต่างๆ ก็ยังทรงตัวอยู่ระดับสูงอีกด้วย

โดยการที่ค่าไฟที่เตรียมปรับตัวสูงขึ้น ก็จะส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจแตกต่างกันไป หากกลุ่มธุรกิจห้างร้านขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบเยอะ ภาระก็จะตกไปอยู่ที่ผู้เช่า ที่อาจจะต้องถูกเก็บค่าเช่าเพิ่มจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ผู้มาใช้บริการก็อาจได้รับผลกระทบจากค่าบริการที่ต้องเสียเพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อกันเป็นทอดๆ และจะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อที่ในปี 2565 คาดว่าจะอยู่ที่ 6.3% และหากถูกซ้ำเติมด้วยราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นก็อาจทำให้ในปี 2566 ไทยก็ยังต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่องด้วย

นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน แม้ปัจจุบันรัฐบาลยังตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้อยู่ แต่ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ารัฐบาลจะอุ้มได้อีกนานแค่ไหน และยังมีในเรื่องของการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่ใกล้จะหมดระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้ว สิ่งที่น่ากังวลคือช่วงนี้ถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน หากไม่มีการต่อมาตรการเหล่านี้ ก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการรวมถึงภาคประชาชนเข้าไปอีก แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะอุ้มมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไป เนื่องจากเป็นมาตรการที่ส่งผลต่อคะแนนเสียง ทั้งในเรื่องของการตรึงราคาน้ำมัน และภาษีน้ำมัน เพราะถ้าไม่อุ้มราคาน้ำมันดีเซลก็จะพุ่งขึ้นไปมากกว่านี้ได้