ปล่อยเงินกู้หนุนธุรกิจสตาร์ทอัพในอาเซียนตกต่ำมากที่สุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่สิ้นสุดโรคโควิด-19
ดีลสตรีทเอเชีย เปิดเผยรายงานทีชื่อว่า South East Asia Deal Review เกี่ยวกับธุรกรรมการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน พบว่า มูลค่าการระดมทุนหรือการขอกู้ยืมเงินของธุรกิจสตาร์ทอัพในไตรมาสที่หนึ่งปี 2024 นี้มีมูลค่าเพียง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 37,500 ล้านบาท ส่งผลให้เป็นมูลค่าการระดมทุนที่ลดลงมากถึง 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นมูลค่าที่ตกต่ำน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการระดมทุนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 ผ่านไป
การระดมทุนของธุรกิจสตาร์ทอัพในอาเซียนในไตรมาสที่หนึ่งดังกล่าวนั้นได้ทำสถิติมูลค่าการระดมทุนที่ตกต่ำมากที่สุดในรอบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่สิ้นสุดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 เป็นต้นมา สะท้อนให้เห็นถึงธุรกิจของการระดมทุนจากบรรดาบริษัทร่วมลงทุน หรือเวนเจอร์แคปปิตอล และสถาบันการเงินที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง หากพิจารณาเป็นจำนวนธุรกิจสตาร์ทอัพที่ได้รับการระดมทุนในไตรมาสที่หนึ่งปีนี้มีจำนวนจำนวนรถน้อยเหลือเพียง 180 แห่ง ลดต่ำลงจากเดิมในไตรมาสที่หนึ่งปี 2023 ที่มีธุรกิจสตาร์ทอัพได้รับการระดมทุนทั้งหมด 193 แห่ง
สาเหตุหรือปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจการระดมทุนหรือปล่อยสินเชื่อให้บรรดาธุรกิจสัตว์ตกต่ำ เป็นผลมาจากภาวะอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสำคัญทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูงในรอบหลายกว่าทศวรรษผ่านมา นอกจากนี้ ต้นทุนทางการเงินที่สูงยังทำให้เกิดข้อจำกัดในการหวังผลตอบแทนจากการปล่อยเงินกู้ให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพ การควบคุมและตัดลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะในแง่ของการลงทุนกับบริษัทที่เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและมีความเสี่ยงสูง
ทั้งนี้ธุรกิจสตาร์ทอัพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนได้ขยายตัวจนในปลายปียุค 2010 และ และขึ้นถึงจุดสูงสุดในปี 2021 เนื่องจากธุรกิจเทคโนโลยีการเงินและเทคโนโลยีเทคโนโลยีด้านสุขภาพทางไกล จะได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ตามภาวะตลาดการระดมทุนดังกล่าวกับตกต่ำลงเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสที่ 4 ในปี 2021 โดยมีมูลค่าการระดมทุนเหลือเพียง 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 300,000 ล้านบาท ธุรกิจสตาร์ทอัพที่อยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้นมีความเปราะบางอย่างมาก เนื่องจากล้วนอยู่ในประเทศธุรกิจภาคบริการที่มีการแข่งขันอย่างเข้มข้นและรุนแรงในช่วงวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไตรมาสที่หนึ่งของปีนี้ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ต้องเผชิญกับการระดมทุนที่ตกต่ำมากที่สุด เนื่องจากบริษัทร่วมลงทุนและสถาบันการเงินล้วนถอยห่างจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีการใช้เงินเงินทุนสูงมากท่ามกลางผลตอบแทนและผลการดำเนินงานที่ต้องใช้เวลาในระยะยาว ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีการระดมทุนเพียงแค่ 10 แห่ง และได้เงินทุนรวมกันเพียงแค่ 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 675 ล้านบาท ทำสถิติมูลค่าระดมทุนของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ตกต่ำที่สุดในรอบอย่างน้อย 5 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2019
